จ.ตรัง โกงคนจน หลอกยาย60 ยึดโฉนดบ้าน

โกงคนจน ยาย 60 ชาวตรังสุดช้ำชีวิตขมขื่นสุดยากจน ซ้ำต้องเลี้ยงลูกพิการ ยังโดนเจ้าหน้าที่รัฐหลอกเอาโฉนดไปนานร่วมปี อ้างจะเอาไปเป็นหลักฐานสร้างบ้านใหม่ให้สุดท้ายหายเงียบ ไปทวงยังเฉย...

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 13 ส.ค.2554 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบครอบครัวชีวิตรันทดของ นางแกน บุนนาค อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/3 ซ.ข้างไฟฟ้าเก่า ถ.พัทลุง ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นครอบครัวยากจนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ประมาณ 5-6 ปีแล้ว และต้องตักน้ำจากบ่อลึกหน้าบ้าน เนื่องจากไม่มีน้ำประปาส่วนภูมิภาคใช้ หลังจากที่สามีเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว อีกทั้งพบว่าโฉนดที่ดินบ้านถูกเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครตรัง หลอกเอาไปกว่า 1 ปีแล้ว ทวงคืนก็ไม่ได้คืนอ้างว่าจะพาไปเป็นหลักฐานเพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ ตามโครงการช่วยเหลือคนยากจนให้

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงรุดเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบนางแกน บุนนาค เจ้าของบ้าน กำลังนอนอยู่บนแคร่ไม้ภายในบ้านไม้ชั้นล่างของบ้านซึ่งอยู่ในสภาพทรุดโทรมหนัก ส่วนชั้นบนหลังคาบ้านรั่วต้องหอบผ้าและที่นอนหลบน้ำฝนมาอยู่ข้างล่างเพื่อเลี้ยงดูแลลูกชาย คือ นายคมสันต์ บุนนาค อายุ 30 ปี ด้วยซึ่งมีอาการป่วยด้วยโรคสมองพิการ ส่วนลูกชายอีกคนทราบชื่อ นายพล (ขอปกปิดชื่อจริง) อายุ 27 ปี ออกไปทำงานเป็น รปภ.ประจำห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นรายได้หลักทางเดียวที่เลี้ยงครอบครัวอยู่ในตอนนี้

โดยนางแกน เปิดเผยต่อ “ผู้สื่อข่าว” ว่าสำหรับตนบางวันออกไปรับจ้างล้างจาน และรับจ้างมัดถุงก๋วยเตี๋ยว มีรายได้ครั้งละ 50-100 บาท แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยสบายมีอาการวูบเป็นลมบ่อยๆ จึงไม่ได้ออกไปทำงานต้องรอ เงินเดือนจากลูกชายที่เป็น รปภ.เพียงทางเดียว

ส่วนลูกชายที่ป่วยด้วยโรคสมองพิการก็ไม่ได้พาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตรังเลย เนื่องจากไม่มีเงิน จึงต้องทนรับชะตากรรมอยู่ในสภาพอันน่าเวทนาอย่างที่เห็น

“ตนอยากจะขอความช่วยเหลือเรื่องกระแสไฟฟ้า เพราะตอนนี้ต้องจุดเทียนเพื่อส่องสว่างหลังจากไม่มีไฟฟ้าใช้มานานกว่า 5-6 ปีแล้ว ซึ่งช่วงเวลาลุกขึ้นเข้าห้องน้ำในช่วงกลางคืนลำบากมากประกอบลูกชายมีอาการไม่ปกติสมอง ขณะเดียวกันขณะนี้ฝนตกหนักและมีลมพัดแรงจนทำให้หลังคาบ้านซึ่งเป็นสังกะสีเก่าๆ มีรูทำให้ฝนรั่วเกือบทั้งหลังและบ้านอยู่ในสภาพทรุดโทรมอย่างที่เห็น ไม้หักผุพังจนแทบจะล้มลงมาอยู่แล้วแต่ก็ไม่มีเงินจะมาซ่อมแซมต้องทนรับสภาพเช่นนี้ต่อไป ขอให้มีข้าวกินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องก็พอ

และในช่วงเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ จ.ตรัง เมื่อเดือน มี.ค.2554 ที่ผ่านมา ตนต้องพาลูกชายสมองพิการวิ่งหนีออกไปอยู่ข้างนอก เพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยวและระดับน้ำสูงจนถึงลำคอ แต่ก็ต้องทนอยู่เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน

นางแกน กล่าวทั้งน้ำตาด้วยว่า ก่อนหน้านี้เคยมีเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครตรัง บอกจะมาสร้างบ้านให้งบประมาณ 150,000 บาท แต่ปรากฏว่าไปสร้างไว้ผิดที่ ไม่ได้สร้างไว้ในโฉนดที่ดินของตน และยังเอาโฉนดที่ดินตัวจริงของบ้านหลังนี้ไปด้วยเป็นเวลานานร่วม 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่เอามาคืน ตนไปแจ้งความไว้แล้วกับ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ซูซัน ร้อยเวร สภ.เมืองตรัง แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า จึงกราบวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ชุมชนฯ คนดังกล่าวรีบนำโฉนดกลับมาคืนด้วย ถึงแม้ไม่ได้บ้านหลังใหม่ก็ไม่เอาแล้ว และเรื่องนี้ตนได้บอกกับ นายชาลี กางอิ่ม นายกเทศมนตรีนครตรัง ทราบเรื่องแล้วด้วย แต่ก็ยังไม่ได้นำโฉนดที่ดินบ้านที่ตนอยู่อาศัยมาคืนให้แต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากการสังเกตดูบริเวณที่อยู่อาศัยของบ้านชั้นล่าง พบว่ามีพื้นที่คับแคบเป็นทั้งห้องนอนห้องครัว ห้องเก็บเสื้อผ้า และห้องเก็บข้าวของเครื่องใช้เป็นพื้นที่เดียวกัน มีความลำบากมาก