ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




จ.สงขลา ลงตรวจสอบพื้นที่ความเสียหายเขื่อนหิน

จ.สงขลา ลงตรวจสอบพื้นที่ความเสียหายเขื่อนหิน

 

 จากสภาพคลื่นลมที่รุนแรงในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือปีนี้ ทำให้บริเวณชายฝั่งจังหวัดสงขลามีคลื่นซัดเข้าหาฝั่งรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับเขื่อนหินทิ้งบ้านบ่ออิฐของกรมเจ้าท่าหลายจุด

       ในวันนี้ (ที่ 13 ม.ค.)นายณัฐชัย พลกล้า ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 จังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของเขื่อนหินทิ้งบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ไปจนถึงที่บ้านปึก หมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา หลังพบว่า ช่วงฤดูมรสุมปีนี้ มีคลื่นแรงจัดเขื่อนหลายเขื่อนถูกคลื่นซัดพังเสียหาย มีทั้งพังเสียหายบางส่วนและพังเสียหายทั้งเขื่อน โดยทำการบันทึกวีดิโอและภาพถ่ายสภาพความเป็นจริง ในขณะที่คลื่นมีความรุนแรงซัดเขื่อนพังเสียหาย เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการนำเสนองบประมาณเพิ่มเติม

      สำหรับเขื่อนหินทิ้ง บ้านบ่ออิฐ จำนวน 14 เขื่อน ระยะทาง 5 กิโลเมตร งบประมาณ 225 ล้านบาท ตัวเขื่อนแต่ละเขื่อน มีความยาว 200 เมตร สันเขื่อนกว้าง 5 เมตร มีระยะห่างระหว่างตัวเขื่อน 150 เมตร โดยก่อสร้างจากชายฝั่งบริเวณบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ไปจนถึงที่บ้านปึก หมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เนื่องจากบริเวณนี้ได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่งที่มีความรุนแรงมากในพื้นที่ของจังหวัดสงขลา

        นายณัฐชัย พลกล้า ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า เขื่อนได้รับความเสียหายพอสมควร เนื่องจากในปีนี้คลื่นลมมีกำลังแรงระดับคลื่นสูงขึ้น ในส่วนของกรมเจ้าท่าขณะนี้ได้งบประมาณ 155 ล้าน มาทำการเพิ่มระดับสันเขื่อนและลดช่องว่างระหว่างหัวเขื่อนให้ลดลง เพื่อป้องกันไม่ให้คลื่นเข้ามาชายฝั่งได้มากขึ้น สำหรับช่องว่างระหว่างเขื่อนที่ก่อสร้างไว้เดิมประมาณ 150 เมตร ให้ลดลงเหลือประมาณ 80 -90 เมตร

       ที่ผ่านมาเขื่อนหินทิ้ง บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ไปจนถึงที่บ้านปึก หมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา สามารถป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งในช่วงฤดูมรสุมได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ในช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือปีนี้ คลื่นลมมีกำลังแรงซัดกระหน่ำตัวเขื่อนจนพังเสียหายหลายเขื่อน มีทั้งพังเสียหายบางส่วนและพังเสียหายทั้งเขื่อน







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน