ครรชิตลั่น ไม่ส่งปืน-รถให้ตรวจ

ผู้การสมุทรสาครส่งหนังสือถึงอัยการขอสอบพยานล่วงหน้า 3 ปาก เป็นผู้เห็นเหตุการณ์นาทีฆ่านายกตุ่นอย่างใกล้ชิด เผยสัปดาห์หน้าจะสรุปสำนวนแนบความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาถึงอัยการ และจะส่งหนังสือถือสภาขอตัวส.ส.มาดำเนินคดีด้วย ด้าน"ครรชิต"ประกาศลั่นไม่ส่งปืน-รถให้ตร. ตามที่มีหมายเรียกออกมาถึง 4 ครั้ง ระบุให้ทนายรับผิดชอบและจะไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น มาร์คอ้างยังไม่ได้คุยกับครรชิตแต่เห็นเข้ามอบตัวแล้วให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนทีมกฎหมายปชป.จวก"พร้อมพงศ์" ไม่พอใจส่งจ.ม.จี้มาร์คสั่งครรชิตส่งปืน-รถให้กับตร.

ความคืบหน้าคดีฆ่า "นายกตุ่น"นายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร ซึ่งนายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นผู้ต้องหา ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ม.ค. พล.ต.ต.ธยาฤทธิ์ เอกเผ่าพันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ทำหนังสือถึงอัยการจังหวัดสมุทรสาครเพื่อขอสืบพยานปากสำคัญล่วงหน้าทั้ง 3 ราย เป็นหญิง 2 คน ชาย 1 คน ประกอบด้วย 1.ประจักษ์พยานเป็นคนล้างรถอยู่ในปั๊ม ซึ่งยืนอยู่ข้างห้องน้ำและเห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ 2.ขณะเกิดเหตุคนขับรถเดินเข้าร้านเซเว่นฯ หลังจากออกมาก็เห็นชายถือปืนวิ่งหลบหนี 3.เป็นคนล้างรถเช่นกันที่ร่วมเห็นชายคนดังกล่าววิ่งหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ พร้อมอาวุธปืนในมือด้วยอาการลุกลี้ลุกลน อย่างไรก็ตามเมื่อหนังสือถึงมืออัยการจังหวัดแล้วก็จะมีการส่งไปยังอธิบดีอัยการ เขต 7 จ.ราชบุรี เพื่อพิจารณาต่อไป

"ส่วนในเรื่องการสรุปสำนวนคดีนั้น คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะแล้วเสร็จก่อนมีความเห็นสั่งฟ้อง หลังจากนั้นจะทำหนังสือขอตัวนายครรชิตไปยังสภาผู้แทนราษฎร ตามหมายเรียกแจ้งคดีเพื่อส่งต่อชั้นอัยการในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" พล.ต.ต.ธยาฤทธิ์กล่าว

ที่รัฐสภา นายครรชิตกล่าวถึงกรณีตำรวจออกหมายถึง 4 ครั้งขอให้ส่งมอบปืนพกขนาด .40 และรถกระบะที่ครอบครองอยู่เพื่อตรวจสอบหาหลักฐานว่า ยืนยันว่าจะไม่นำอาวุธปืนและรถส่งให้ตำรวจ และถือเป็นหน้าที่ของทนายความผู้รับผิดชอบคดีนี้ที่จะว่าคดีในชั้นศาล ไม่ขอพูดอะไรมากกว่านี้เพราะเคยบอกแล้วว่าจะให้ปากคำในชั้นศาล ที่ผ่านมาไม่ได้หลบหนีคดีโดยได้เดินทางเข้ามอบตัวเพื่อสู้คดี

"ส่วนเรื่องการขอเอกสิทธิ์คุ้มครองจากสภาผู้แทนราษฎรนั้น ขอให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของส.ส.แต่ละคน ซึ่งไม่ล็อบบี้หรือทำอะไร และไม่ทราบว่าส.ส.แต่ละคนจะยึดบรรทัดฐานเดิมที่สภาเคยปฏิบัติมา คือการยืนยันให้เอกสิทธิ์คุ้มครองสมาชิกสภาหรือไม่อย่างไร" นายครรชิตกล่าว

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ส่งจดหมายปิดผนึกขอให้นายครรชิตให้ความร่วมมือในการสอบสวนคดีดังกล่าว ว่ายังไม่เห็นเรื่อง แต่ปกตินายพร้อมพงศ์ชอบยื่นหนังสือในเรื่องต่างๆ อยู่แล้ว อย่างไร ก็ตามที่ผ่านมายังไม่ได้เรียกนายครรชิตเข้ามาคุย เนื่องจากมอบตัวต่อตำรวจแล้วและก็ให้การปฏิเสธ จึงอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะส่งหนังสือขอตัวนายครรชิตไปดำเนินคดีต่อสภาเมื่อไหร่

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มองหลักกฎหมายเรื่องการให้เอกสิทธิ์คุ้มครองส.ส. อย่าง ไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เริ่มมีการพูดคุยกันแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะพรรคก็มีแนวทางที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่คนของเราโดยปกติก็มักจะไม่ประสงค์ที่จะใช้เอกสิทธิ์ในคดีทั่วไป แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน

นายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายพร้อมพงศ์คงไม่มีความรู้ในกระบวนการยุติธรรมอย่างสิ้นเชิง จุดประเด็นนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นเกมทำลายล้างทางการเมือง เพราะประเด็นนี้นายอภิสิทธิ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงใดๆ เลย จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เพราะคดีนี้ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วอย่างชัดแจ้ง ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม

"นายพร้อมพงศ์ต้องหัดศึกษากฎหมายเสียบ้าง ว่าสิทธิของผู้ต้องหามีอะไรบ้าง สิทธิการต่อสู้คดีเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรม สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา สิทธิที่จะให้การหรือไม่ให้การก็ได้ ท้ายที่สุดข้อเท็จจริงทั้งหมดจะยุติโดยศาลยุติธรรมเท่านั้น ขอเรียกร้องว่าอย่าใช้กระบวนการนอกกฎหมาย เพราะสังคมจะสับสน และสังคมอย่ารีบด่วนสรุป ต้องให้ความเป็นธรรมกับนายครรชิตด้วย เพราะกระบวนการยุติธรรมยังไม่ยุติ อย่าทำเหมือนเป็นนักโทษหลบหนีคดีที่ศาลได้ตัดสินแล้ว" นายราเมศกล่าว