จยย.รับจ้างซิ่งชนรถพ่วง 16 ล้อผู้โดยสารตายคาที่

ร.ต.อ.สุชาติ ช่างทำ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางนา รับแจ้งอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงเฉี่ยวชนรถจยย.รับจ้างทำให้มีผู้เสียชีวิต บนนถนนบางนาตราดฝั่งขาเข้า ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลไทยนครินทร์ แขวงและเขตบางนา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุอยู่ช่องทางที่ 2 จากซ้าย ในช่องทางด่วน เจ้าหน้าที่พบศพนายปรีชา หมื่นสุดตา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 2 ต.ดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีขาว ตรวจสอบตามร่างกายพบว่า กลางหลังมีรอยล้อรถทับ ศีรษะแตก กระดูกซี่โครงหัก ใกล้กันพบรถบรรทุกพ่วง 16 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียนหัวพ่วง 73-1597 กทม. ท้ายพ่วง 76-6197 กทม. มีนายสุริยา อันทะโส อายุ 55 ปี โชเฟอร์รถบรรทุกคันดังกล่าวยืนรอให้การอยู่ในที่เกิดเหตุ
สอบสวนนายสุริยา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถพ่วงบรรทุกขวดเหล้าจากย่านบางพลีเพื่อจะไปส่งที่ย่านบางยี่ขัน จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุก็เห็นรถจยย.รับจ้างที่มีผู้ตายซ้อนท้ายอยู่ในช่องทางซ้ายสุดหักหลบรถกระบะคันหนึ่งเข้ามาในช่องทางตน ซึ่งตนก็เร่งเครื่องแซงจนหัวพ่วงผ่านไปแล้ว แต่ท้ายพ่วงไม่พ้นทำให้ไปเฉี่ยวกับรถจยย.คันดังกล่าวจนล้มคว่ำจนผู้ตายเสียชีวิต ส่วนคนขับรถจยย.รับจ้างนั้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เมื่อลุกขึ้นมาได้ก็รีบขี่รถจยย.ย้อนศพหลบหนีไปทันที ทั้งนี้ตามปกติแล้วในช่องทางด่วนนั้นจะห้ามรถจยย.ขี่เข้ามาใช้ แต่ตนก็เห็นว่ามีรถจยย.หลบเข้ามาใช้อยู่เป็นประจำ ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ขับขี่รถจยย.รับจ้างคันดังกล่าวเอาไว้ที่บริเวณแฟลตใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือนายโหน่ง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี อยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า และถลอกตามร่างกาย พร้อมรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า แอร์เบลด สีดำ หมายเลขทะเบียน ษขค-488 กทม. จึงนำตัวมาสอบปากคำที่สน.บางนา
เบื้องต้นเจ้าตัวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุรับผู้ตายมาจากวินหน้าโรงกลั่นน้ำมันบางจาก เพื่อจะไปส่งที่ซอยบางนา-ตราด 30 โดยตนขี่มาในช่องทางคู่ขนาน แต่เมื่อมาถึงบริเวณใกล้กับจุดเกิดเหตุ ก็พบเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกำลังตั้งด่านอยู่ แต่เนื่องจากตนไม่ได้สวมหวกกันน็อคและไม่มีกระจกมองหลังจึงกลัวจะถูกจับ เลยหันไปบอกผู้ตายว่าไปต่อไม่ได้แล้ว แต่ผู้ตายบอกว่า ต้องรีบไปส่งเอกสาร ให้ตนขี่หลบด่านเข้าช่องทางด่วนไปเลย หากมีอะไรจะรับประกันเอง ตนจึงเลี้ยวเข้าช่องทางด่วนแล้วขี่อยู่ในช่องทางซ้ายสุด เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็ถูกท้ายรถพ่วงคันดังกล่าวเฉี่ยวชนรถจยย.ของตนจนล้มคว่ำ โดยที่ตนไม่ได้หักหลบรถกระบะตามที่คนขับรถบรรทุกพ่วงกล่าวอ้างแต่อย่างใด เพราะตอนนั้นไม่มีรถกระบะขับอยู่ด้านหน้าตนแม้แต่คันเดียว พอเห็นว่าผู้ตายเสียชีวิตก็ตกใจกลัวว่าจะมีความผิดเลยขี่รถหนีไปสงบสติอารมณ์อยู่ในแฟลตจนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาเจอ