หลอกผ่านระบบ Call Center โอนผ่าน ATM
การป้องกันการหลอกลวงผ่านระบบ Call Center โอนเงินผ่าน ATM (TAS)
วิธีการที่แก๊งหลอกลวงนิยมใช้ผ่านการโทรศัพท์ คือ
1. อ้างเหยื่อถูกรางวัลหรือเป็นหนี้แบงก์
2. อ้างเหยื่อได้รับเงินภาษีคืน
3. อ้างโปรโมชั่นมือถือ หรือชำระหนี้ค่าโทรศัพท์ โดยมีส่วนลด
4. อ้างโทรมาจากธนาคารขอทราบข้อมูลเพิ่มเติม
การป้องกัน
1. ลักษณะของเบอร์โทร.เข้าของกลุ่มมิจฉาชีพนี้ ส่วนใหญ่จะใช้คำว่าเป็นเบอร์ส่วนตัว (Private Number) หรือ No Caller ID หรือบางครั้งบอกตัวเลขเพียง 2 หลักแรก ที่เหลือเป็นตัวเลขแปลก ๆ เช่น ขึ้นต้นด้วยตัวเลขที่ไม่ใช่ 0 นำหน้า หรือเป็นเบอร์ที่โทรผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยระบบ VOIP ซึ่งจะขึ้นต้นด้วย 06 หรือมีเครื่องหมาย + นำหน้าเหมือนโทร.จากต่างประเทศ เป็นต้น ดังนั้นหากมีสายโทร.เข้าที่ปรากฏข้อความหรือเลขแปลก ๆ ดังกล่าว ก็ควรจะตั้งหลักระมัดระวังไว้ชั้นหนึ่งก่อน หรือปฏิเสธที่จะสนทนาด้วย
2. ถ้าผู้โทร.เข้านำมาบอกกล่าว หากเป็นการพูดคุยเพื่อให้ไปทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็ม หรือเพื่อกดรหัสต่าง ๆ แล้ว ขออย่าได้ดำเนินการตาม เพราะการทำธุรกรรมใด ๆ สถาบันทางการเงินมีข้อมูลลูกค้าอยู่แล้ว หากจำเป็นต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมจะไม่สอบถามทางโทรศัพท์ แต่จะแจ้งให้ทราบทางจดหมาย หรือช่องทางอื่น
ดีเอสไอเตือนภัย โจรไฮเทค ระบาดหนัก ! นักธุรกิจ เจ้าหน้าที่รัฐ โดนแล้วหลายราย ก๊วนไต้หวัน สุดแสบ ตั้งศูนย์ Call Center บังหน้า ฉ้อโกงทางโทรศัพท์ ลูบคมมือปราบดีเอสไอ อ้างเหยื่อกำลังถูกดีเอสไอ.ตรวจสอบ หลอกให้โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม ไม่เช่นนั้นโดนเล่นงาน พฤติกรรมเดียวกับแก๊งตุ๋นคืนภาษี ระบุเหยื่อรายล่าสุดอยู่จ.สุราษฎร์โดนไปเบาะๆ 26,000 บาท
เมื่อเปิดรายละเอียดมาถึงตอนนี้ คนร้ายสามารถล่วงรู้ยอดเงินในบัญชีของเหยื่อได้ และสั่งให้เหยื่อกดเลขเงินในบัญชีทั้งหมดต่อไป โดยอ้างว่าเมื่อกดแล้วจะไปเชื่อมต่อกับรหัสของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งจะสามารถป้องกันการโอนเงินได้ จากนั้นจึงให้กด OK ทำให้เงินของเหยื่อถูกโอนไปยังบัญชีของคนร้าย และเชื่อว่าคนร้ายจะโอนเงินจากบัญชีต่อไปทันทีผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์
กรณีดังกล่าวนี้ได้เคยเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยทลายแก๊งดังกล่าว โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน พบว่ามีการตั้งศูนย์ CALL CENTER ที่จีน โดยมีผู้ร่วมขบวนการเป็นคนไทย และทำการฉ้อโกงทางโทรศัพท์ทำให้เหยื่อคนไทยได้รับความเสียหาย
ในครั้งนี้ได้มีการกล่าวอ้างชื่อ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รักษาการในตำแหน่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเชี่ยวชาญ (9) ว่าเป็นผู้ทำการตรวจสอบเหยื่อในเรื่องของพฤติการณ์การฟอกเงินบ้าง หรือการกระทำผิดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการเงิน ซึ่งทำให้เหยื่อหลายรายเกิดความหวาดกลัว และเสนอตัวหาทางช่วยเหลือเหยื่อ และหลอกให้ทำธุรกรรมทางการเงินจนเกิดความเสียหายในที่สุด
ดังนั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปทราบว่า อย่าตกเป็นเหยื่อของกลุ่มแก๊งเหล่านี้ หากท่านใดได้รับข้อมูลข่าวสารดังกล่าว ก็ขอให้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษที่ถูกกล่าวอ้างได้โดยตรง โดยโทรศัพท์มาที่ 02 8319888
ด้าน พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจากเหยื่อหลายราย โทรศัพท์เข้ามาสอบถามรายละเอียด โดยเชื่อว่าเป็นผู้โทรไปหาเหยื่อและทำการหลอกลวงดังกล่าว เช่น เจ้าหน้าที่ศาล หรือ กรณี ด.ต.สุทธิธรรม สังข์วาลนุช ตำรวจธุรการ สน.พระโขนง ซึ่งโชคดีที่ไม่ได้ตกเป็นเหยื่อคนร้ายแก๊งนี้ เพราะได้ตรวจเช็คและเดินทางมาพบตนเองที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และได้ทราบความจริงว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างชื่อมาหลอกเหยื่อหลายรายแล้ว
สำหรับกรณีของคุณณรงค์ ขวัญรอด อยู่ที่ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ได้ถูกฉ้อโกงทางโทรศัพท์ในลักษณะเช่นเดียวกันและถูกฉ้อโกงโอนเงินไปให้คนร้ายเป็นเงินประมาณ 26,000 บาท