จ.อุบลราชธานี ฆ่านายกเกิดการชิงดีชิงเด็น

ความคืบหน้าคดีเหตุนายธนวัฒน์ รัตนเดชา หรือฉายาผู้กองทองแดงอดีตทหารพราน ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงนายประสาน คำแสนดี อายุ 52 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เสียชีวิตอยู่ข้างประตูด้านขวาของรถยนต์โตโยต้า วีโก้ สีบอร์น หมายเลขทะเบียน กท 6750 อุบลราชธานี ที่เบาะรถยนต์มีอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.วางอยู่ ที่หน้ารถยนต์พบศพนายไสว ประดับจันทร์ คนขับรถถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกัน ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 6 ปลอก เหตุเกิดภายในโรงงานผลิตน้ำแข็งบริษัทศรีโสภามาร์เก็ตติ้ง จำกัด หมู่ที่ 9 ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ้านมา หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป

ล่าสุดวันที่ 17 ม.ค. 55 พล.ต.ต.สุรพล แก้วขาว ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เกษมศักดิ์ หะซะนี รอง ผบก.ให้ควบคุมคดีได้เดินทางไปที่ สภ.ห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพาน มุทาพร ผกก.สส.เพื่อติดตามความคืบหน้า พร้อมตั้งทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ที่ 3 ต.หอคำ อ.เมือง จ.บึงกาฬ

เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่โรงงานผลิตน้ำแข็งบริษัทศรีโสภามาร์เก็ตติ้ง และเรียกพยานที่เป็นแม่บ้านมาสอบปากคำเพิ่มเติม จากการตรวจค้นภายในอาคารสำนักงานของบริษัทยึดปืนได้ 4 กระบอกและกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง

พ.ต.อ.เกษมศักดิ์ กล่าวว่า การสังหารครั้งนี้ตำรวจมุ่งปมการสืบสวนไปที่ความขัดแย้งเรื่องธุรกิจ ที่ผู้ตายได้มาทำรับเหมางานสอร์ทและขุดลอกคูคลองให้กับบริษัทศรีโสภามาร์เก็ตติ้ง ซึ่งหลังจากที่สร้างเสร็จยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างประมาณ 23 ล้านบาท อาจจะถูกเรียกมาสังหารเพื่อล้างหนี้ตามใบสั่ง

สำหรับการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายจับนายธนวัฒน์ รัตนเดชา แล้ว ซึ่งแนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าน่าจะเป็นคนก่อเหตุเพียงคนเดียว คาดว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีเร็ว ๆนี้

ร.ต.บุญสด คำแสงดี อายุ 54 ปีอยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ที่ 5 ต.ห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พี่ชายนายประสาน กล่าวว่าทางญาติปักใจเชื่อว่ามูลเหตุของการที่นายประสานและลูกน้องถูกยิงเสียชีวิตนั้น สาเหตุเกิดจากงานรับเหมาก่อสร้างรีสอร์ทมั่งมีศรีสุข ให้กับบริษัทศรีโสภามาร์เก็ตติ้ง ซึ่งมีนักการเมืองรายหนึ่งเป็นเจ้าของ โดยให้นายธนวัฒน์ เป็นผู้ดูแลกิจการ โดยนายประสานได้รับเหมาทำรีสอร์ทให้กับบริษัทดังกล่าวจำนวน 27 หลัง ยังไม่ได้เงินอีก 7 ล้านบาทและค่าขุดลอกคูคลองอีกจำนวน 15 ล้านบาท ค่าจ้างงานตกแต่งภายในรีสอร์ท 8 แสนบาทและค่าจ้างเหมาปลูกต้นเฟื่องฟ้าตามแนวถนนภายในรีสอร์ท 5 แสนบาทรวมเป็นเงินประมาณ 23 ล้านบาทที่ยังไมได้รับ ซึ่งมีการติดต่อทวงถามเรื่อยมา จนมีการเตรียมที่จะยื่นเพื่อฟ้องศาลแต่ก็มาถูกยิงเสียชีวิตก่อน ซึ่งการถูกเรียกมายิงในครั้งนี้น่าจะมีใบสั่งให้ยิงเพื่อล้างหนี้ อย่างไรก็ตามทางญาติได้เตรียมยื่นเรื่องต่อกองปราบเพื่อให้เข้ามาช่วยในเรื่องคดีและติดตามจับกุมคนร้ายเพราะเกี่ยวข้องกับนายทุนและนักการเมืองระดับชาติกลัวจะเป็นมวยล้ม