ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




จ.ชลบุรี ตร.พัทยาจับแก๊งชาวต่างชาติปลอมบัตรเครดิต ทำเสียหายนับสิบล้าน

จ.ชลบุรี ตร.พัทยาจับแก๊งชาวต่างชาติปลอมบัตรเครดิต ทำเสียหายนับสิบล้าน

 

ตำรวจพัทยาโชว์ฝีมือจับกุมแก๊งต่างชาติ ปลอมบัตรเครดิตเสียหายนับสิบล้านบาท ด้าน ผบช.ภ.2 เผยไทยเสียหายมาก เผยคนร้ายติดกล้องจิ๋วที่ตู้เอทีเอ็ม แอบดูเลขบัตรและรหัสบัตร ขณะเจ้าของใช้กดที่ตู้ฯ จากนั้นส่งข้อมูลไปเมืองนอก ทำบัตรกดเงินที่ต่างประเทศ เพื่อการรอดพ้นในการถูกจับของตำรวจไทย...

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2555 พล.ต.ท.ดร.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้นำตัว นายพลาอิลสกี เวนท์เสสราฟ อเลคซานดลอฟ อายุ 40 ปี สัญชาติบัลแกเรีย หนังเดินทางหมายเลข 358053981 และ นายราเลฟ โบลิสลาฟ ไอวานอฟ อายุ 42 ปี สัญชาติบัลแกเรีย หนังเดินทางหมายเลข 365964860 พร้อม ด้วยของกลางประกอบด้วย 1. กรอบพลาสติกครอบช่องเสียบบัตรอิเล็กทรอนิกส์สีเงิน จำนวน 5 ใบ 2. ช่องเสียบบัตรเป็นพลาสติกใสสำหรับติดตัวสกิมเมอร์ จำนวน 1 อัน 3. กล้องรูเข็มลักษณะคล้ายรีโมตรถยนต์ จำนวน 9 อัน 4. โทรศัทพ์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง 5.ไขควงหัวแฉก 1 อัน และ 6. เครื่องแปลงสัญญาณภาพออกทีวี จำนวน 1 เครื่อง มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า พฤติกรรมของ 2 คนร้าย เดินทางเข้ามาพักอาศัยที่โรงแรมโอเปเดอพลาเลซ ซอยบัวขาว ย่านพัทยากลาง เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2555 โดยนำอุปกรณ์สำหรับปลอม หรือแปลงหรือดึงข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นมาด้วย และเมื่อประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 18 ม.ค.2555 คนร้ายทั้งสองคนได้นำอุปกรณ์กล้องรูเข็ม ดังกล่าวไปติดตั้งที่ตู้บริการเงินด่วนของธนาคารกรุงไทยหน้าแฟมิลี่มาร์ท ซอยบงกช เป็นเวลาเดียวกับ พ.ต.ท.ชิตเดชา สองห้อง สว.สส.สภ.เมืองพัทยา รอง หน.ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี ร.ต.อ.ประจักษ์พงษ์ สุริยา ร.ต.อ.ตรงศักดิ์ เพชรหาญ พร้อมพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เดินทางมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุพอดี และเห็นบุคคลทั้ง 2 มีท่าทางพิรุธน่าสงสัย จึงเข้าไปตรวจสอบ

ผบช.ภ.2 กล่าวต่อว่า ปรากฏว่าคนร้าย ได้ดึงอุปกรณ์ดังกล่าวออกจากตู้ และขับรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด เห็นคนร้ายขว้างอุปกรณ์ เข้าไปในป่ารกทึบ และต่อมาได้ควบคุมคนร้ายไว้ได้ ห่างจากที่เกิดเหตุ ประมาณ 500 เมตร และยอมรับว่าได้นำอุปกรณ์คัดลอกข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์มาติดตั้งจริง และได้ขว้างไปในป่าระหว่างหลบหนีตรวจสอบแล้ว พบแต่กรอบพลาสติกครอบช่องเสียบบัตรอิเล็กทรอนิกส์สีเงิน ส่วนแผ่นบันทึกข้อมูลที่มีขนาดเล็กไม่สามารถตรวจหาได้ จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปตรวจสอบห้องพัก พบอุปกรณ์คัดลอกข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์อีกหลายรายการ จึงได้ตรวจยึดนำมาตรวจสอบทั้งหมด

พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวอีกว่า ในกรณีดังกล่าวนี้เป็นความโชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบการกระทำความผิดก่อนที่คนร้ายจะดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์คัดลอกบัตรอิเล็กทรอนิกส์สำเร็จ โดยถ้าคนร้ายติดตั้งสำเร็จจะทำให้ประชาชนที่มาใช้ตู้บริการเงินด่วนตกเป็นเหยื่อถูกขโมยสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมาก ทำลายบรรยากาศแห่งการท่องเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทยไปอย่างสิ้นเชิง ถ้ากลุ่มคนร้ายทำสำเร็จ ภาพพจน์ของประเทศ ก็จะเสียหายเป็นอย่างมาก

“เราได้จากการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของนักท่องเที่ยวกว่า 7 แสนล้านบาทต่อปี ถ้าเขาเข้ามาแล้วเจอกับปัญหาแบบที่ทั้ง 2 ทำจะทำให้เราเสียชื่อเสียงมาก เพราะเขาเข้าใจว่าเป็นคนไทยทำ ทั้งที่จริงเป็นกลุ่มคนพวกนี้ ที่มาก่อเหตุ หลังจากที่เรารู้ว่าทั้ง 2 คนเข้ามาในพัทยาเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ก็สั่งการให้ติดตามพฤติกรรมคนพวกนี้ และก็สามารถจับกุมได้” ผบช.ภ.2 กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา พล.ต.ท.ปัญญา ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปสาธิตการทำโดยเริ่มจากเอากล้องแอบถ่าย ไปติดตั้งที่ตู้เอทีเอ็ม เพื่อแอบดูรหัสบัตรและหมายเลขบัตร ที่เจ้าของบัตรใช้กด จากนั้นก็จะนำไปเรียนแบบบัตรต่างๆ โดยส่งข้อมูลไปต่างประเทศแล้วกดเงินที่ต่างประเทศเลย ก็จะรอดพ้นการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไทย ด้วยการใช้ระยะเวลาเพียงข้ามวันเท่านั้นเจ้าของบัตรก็จะสูญเงินที่มีอยู่ในบัญชีจนหมด โดยตั้งข้อหาว่า ร่วมกันทำเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลง หรือสำหรับให้ได้ข้อมูลในการปลอมหรือแปลงสิ่งใดๆ หรือมีเครื่องมือ หรือ วัตถุเช่นว่านั้น เพื่อใช้หรือให้ได้ข้อมูลในการปลอมหรือแปลง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น

 







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน