จ.เพชรบุรี 'กมธ.สิ่งแวดล้อม' บี้ตร.เร่งสางคดีฆ่าช้างแก่งกระจาน

กมธ.ที่ดินและสิ่งแวดล้อม บี้ ตร.เร่งดำเนินคดีฆ่าช้างแก่งกระจาน เร่งทำหนังสือจี้มหาดไทย ให้แก้ระเบียบ ตั๋วรูปพรรณช้าง ป้องกันการสวมตั๋วด่วน ขณะที่ให้ผู้ว่าฯ และนายอำเภอแก่งกระจาน ตรวจสอบชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของอุทยานฯ อย่างเข้มงวด...

เมื่อวันนี้ 19 ม.ค. ที่ห้องประชุมคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ห้อง 3101 รัฐสภา คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการประชุมเรื่อง การฆ่าช้างที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยเชิญนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.เพชรบุรี พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมคณะ และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มาชี้แจง

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุม กมธ.ได้มีมติให้เจ้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดีนี้โดยเร็ว และให้ทางพนักงานสอบสวนได้รับฟังข้อโต้แย้งจากกรมอุทยานฯด้วย เพราะข้อมูลที่มีอยู่อาจไม่ตรงกัน อีกทั้งอยากให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดในคดีนี้โดยเร็ว ซึ่งได้มีการขอเวลาอีกไม่เกิน 30 วัน จะดำเนินคดีให้เสร็จสิ้น

ขณะที่ นายนริศ ขำนุรักษ์ ประธาน กมธ.สิ่งแวดล้อมฯ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือไปถึง รมว.มหาดไทย เกี่ยวกับเรื่องการออกตั๋วรูปพรรณช้าง เพราะโดยระเบียบและข้อกฎหมาย ขณะนี้ช้างต้องมีอายุ 8 ปี ถึงจะมีตั๋วรูปพรรณได้ และจากข้อสังเกตจะพบว่าช้างที่มีใบสั่ง จะมีอายุน้อยกว่า 8 ปี เพราะสามารถนำเคลื่อนที่ไปที่อื่นได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดการลักลอบล่าช้างป่า จึงอยากให้มีปรับปรุงการจัดการทำตั๋วรูปพรรณใหม่ และให้ตรวจสอบช้างแต่ละปาง ว่าทั้งหมดมีเท่าไหร่และมีความเคลื่อนไหวอย่างไร โดยข้อแก้ไขปรับปรุงที่ต้องการคือ ช้าง ต้องทำตั๋วรูปพรรณตั้งแต่แรกเกิด ก็จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ได้ให้ นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.เพชรบุรี และนายอำเภอแก่งกระจาน ได้ทำการตรวจสอบหมู่บ้านในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานทั้งหมด เพราะหัวหน้าอุทยานฯรายงานว่า มีประชากรชาวเขาเพิ่มขึ้นในเขตอุทยานฯ ส่วนหนึ่งมีปัญหาในแง่การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ

ประธาน กมธ.สิ่งแวดล้อมฯ กล่าวต่อว่า เพราะใน จ.เพชรบุรี จากรายงานออกบัตรประชาชนง่าย จึงมีชาวเขาจาก จ.ราชบุรี ในหลายหมู่บ้านรวมทั้ง ชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน ที่เป็นพี่น้องกันมาแต่ดั้งเดิม ก็ได้อพยพเข้ามา โดยตนได้กำชับให้ ผวจ.ไปดูแลอย่างใกล้ชิด โดยกำหนดมาตรการการออกบัตรประชาชนอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม กมธ.มีข้อสังเกตว่า กรมอุทยานฯ มีการระดมเจ้าหน้าที่ไปช่วยหลายยุทธการ ไม่ว่ายุทธการปราบไม้พะยูง หรือยุทธการวังน้ำเขียว จึงเป็นข้อสังเกตได้ว่าอาจทำให้มีปัญหา เพราะในบางแห่งไม่มีผู้ช่วย ดังนั้นถ้าพื้นที่อุทยานฯ ใดที่ล่อแหลมและเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ก็ขออย่าให้เรียกตัวหัวหน้าหรือส่งกำลังไปร่วมยุทธการ เพื่อให้หัวหน้าฯ และเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดได้เฝ้าพื้นที่ และระวังเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

นายนริศ กล่าวอีกว่า ในส่วนของพนักงานสอบสวนฯ ได้ชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานว่าคนเผากับคนยิงเป็นส่วนเดียวกัน แต่ยืนยันว่ามีการถอดงาก่อนมีการเผา เจ้าหน้าที่บอกให้ชาวบ้านไปถอดให้ แต่ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ ได้เอางาไปเผาต่อ เพราะชาวบ้านถอดแล้วนำมาใส่รถ แต่พอรู้ว่ามาจากการกระทำผิด ก็เลยเอาไปเผาด้วย แต่ตำรวจเชื่อว่าจะเอาไปเป็นของส่วนตัว แต่เจ้าหน้าที่อุทยานบอกว่า เผาพร้อมทั้งงา ทั้งนี้การเผาเป็นการทำลายหลักฐานทางคดีไปมาก ทำให้คดีเกิดความยุ่งยากซับซ้อน จึงเป็นปัญหาต่อการดำเนินคดี

ประธาน กมธ.สิ่งแวดล้อมฯ กล่าวด้วยว่า ส่วนกลุ่มที่ฆ่ากับกลุ่มคนที่เผา จะเชื่อมโยงหรือไม่ ตำรวจไม่ยืนยัน และเป็นคนในพื้นที่หรือไม่ ก็ยังไม่ยืนยัน เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ชี้แจงว่า ชาวเขาที่อยู่บริเวณนั้น เป็นคนล่า แต่ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่อุทยานฯเป็นคนเผา โดยถือเป็นการทำผิดขั้นตอนเล็กน้อย แต่ด้วยช่วงเวลาดังกล่าวเป็นวันหยุดติดต่อกันในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับ ปีใหม่ จึงไม่สามารถดำเนินการได้อย่างสะดวก แต่ก็ได้ประสานงานขอคำแนะนำจากนายสัตวแพทย์ของกรมอุทยานฯแล้ว