จ.เพชรบุรี ผช.ผบ.ตร.นำทีมขุดซากช้าง พบหัวกระสุนอาก้าฝังอก

ผช.ผบ.ตร.นำผู้เชี่ยวชาญด้านสัตวแพทย์จากจุฬาฯ ร่วมตรวจด้านนิติวิทยาศาสตร์กับซากช้างที่ที่แก่งกระจาน พบหัวกระสุนอาก้าเป็นหลักฐาน ด้าน สพ.ระบุ ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ หากยิงนัดเดียวตายต้องเป็นปืนที่มีขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพสูง...

เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2555 พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย รศ.สพญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังบ้านหมู่ 6 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยมี พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร ผบก.ตร.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.แก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภาค 7 และเพชรบุรี ซึ่งได้นำกำลังชาวบ้านในพื้นที่ทำการขุดซากช้างที่ถูกฝังไว้เพื่อขึ้นมาตรวจ สแกน และเอกซเรย์หาชิ้นส่วนของหัวกระสุนพร้อมทั้งตรวจหาแนววิถีกระสุนโดยละเอียดถึงความเป็นไปได้ว่า จุดที่ช้างนอนตายกับจุดตำแหน่งที่ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานระบุว่าน่าจะเป็นจุดที่คนร้ายยิงซึ่งมีหลักฐานเป็นเปลแขวนอยู่บนต้นไม้สอดคล้องกันหรือไม่

ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการนำหัวกะโหลกของช้าง มาตรวจหาเศษหัวกระสุน และจุดตำแหน่งที่ช้างถูกยิง อีกทั้งได้มีการจำลองลักษณะที่ช้างถูกยิงโดยนำนั่งร้านมาตั้งและนำกะโหลกช้างขึ้นวางในตำแหน่งที่พบครั้งแรกและหาแนววิถีกระสุนจุดที่ยิงว่าตรงกับหลักฐานที่พบเบื้องต้นหรือไม่ว่าคนร้ายยิงจากบนต้นไม้ที่มีเปลแขวนอยู่ โดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ หากยิงนัดเดียวตายจะต้องเป็นปืนที่มีขนาดใหญ่ และมีประสิทธิภาพสูง อาจเป็นไปได้ว่าช้างถูกยิงจนล้มก่อน แล้วมีการยิงซ้ำที่กะโหลกด้านซ้าย จึงได้ทำการใช้เครื่องสแกน และเอกซเรย์ภายในตัวช้างว่ามีชิ้นส่วนของหัวกระสุนหรือร่องรอยการถูกยิงใน จุดอื่นๆ หรือไม่ หากพบชิ้นส่วนหัวกระสุนก็พอที่จะเปรียบเทียบได้ว่า เป็นกระสุนชนิดใด และจะมีความสอดคล้องกับแก๊งล่าช้าง ที่นำลูกช้างออกจากป่าจนปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่บ้านพุระกำ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี หรือไม่ เนื่องจากที่ศพผู้เสียชีวิตจากการปะทะพบอาวุธปืนเอ็ม 16 โดยต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ในห้องทดลองอีกครั้ง หากพบชิ้นส่วนหัวกระสุน

พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า การตรวจพิสูจน์ในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้งท้องถิ่นที่อำนวย ความสะดวกจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ตลอดจนสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ร่วมเดินทางมาทำการตรวจสอบพร้อมกับหน่วยพิสูจน์หลักฐานของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยก่อนหน้านี้ได้นำชิ้นส่วนของช้างส่งมอบให้ทำการตรวจดีเอ็นเอแล้ว และจากกรณีช้างที่แก่งกระจานนี้ ได้สร้างความตื่นตัวให้กับนักวิชาการทางด้านสัตวบาล ที่จะร่วมกับศึกษาและวิจัยรวมทั้งเก็บข้อมูลสัตว์ป่ากับสัตว์บ้าน เช่น ช้างป่ากับช้างบ้านว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ทั้งนี้หากมีความร่วมมือกันจริงจัง ต่อไปก็จะสามารถตรวจสอบช้างได้ว่า มีการนำช้างป่าออกมาสวมตั๋วเป็นช้างบ้านหรือไม่ อันเป็นเรื่องที่ดีที่หลายองค์กรได้ตื่นตัวร่วมกันปกป้องรักษาสัตว์ป่าโดยเฉพาะช้าง

หลังการตรวจสอบนานกว่า 2 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 16.00 น. สัตวแพทย์ผู้ตรวจสอบได้พบกระสุนปืนอาก้า เอเค 47 ขนาด 7.62 จำนวน 1 นัด ที่บริเวณหน้าอกซ้ายของซากช้าง เบื้องต้นจะนำหัวกระสุนดังกล่าวไปพิสูจน์ว่า ยิงจากปืนที่ขึ้นทะเบียนเป็นอาวุธของราชการหรือไม่ หรือ เกี่ยวข้องกับกลุ่มพรานล่าสัตว์กลุ่มใด.