ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




ท่องที่ยว ภูทับเบิก ดูดาวเกลื่อนดิน เพชรบูรณ์

ท่องที่ยว ภูทับเบิก ดูดาวเกลื่อนดิน เพชรบูรณ์

ฤดูหนาวในประเทศไทย ถือเป็นไฮ ซีซั่นของการท่องเที่ยว ยิ่งตามยอดดอยตามภูสูงด้วยแล้ว มักคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว

"เพชรบูรณ์" จังหวัดหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติมากมาย แถมยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก หากเอ่ยถึงเขาค้อ หรือน้ำหนาว หลายคนรู้จัก แต่ระยะหลังนี้ จะมีชื่อ "ภูทับเบิก" ที่นักท่องเที่ยวเริ่มกล่าวขวัญ และนิยมมาเที่ยวกันมากขึ้น

"ภูทับเบิก" ได้ชื่อว่าเป็น "UNSEEN THAILAND" อีกแห่งหนึ่ง ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งความหนาว ที่มีดาวเกลื่อนดิน

ภูทับเบิกเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน จ.เพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ต.วังบาล ห่างจาก อ.หล่มเก่า ประมาณ 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจาก อ.หล่มเก่า ไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัว จ.เพชรบูรณ์ ประมาณ 90 กิโลเมตร

มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงาม ด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี และด้วยเป็นยอดเขาที่มีลักษณะเตียนโล่ง จึงมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล

โดยช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่บนภูทับเบิกแห่งนี้มีทะเลหมอกให้ได้ชมกันทั้งปีเลยทีเดียว

บนภูทับเบิกส่วนใหญ่มีชาวไทยชนเผ่าม้งอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยอพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ 14 และหมู่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขา จ.เพชรบูรณ์ ประกอบอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา

นอกจากวิวที่สวยงามบนนี้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่ คือไร่กะหล่ำปลีกว้างใหญ่ ที่ปลูกอยู่บนยอดเขาหลายลูกในลักษณะขั้นบันได ที่นี่ถือเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีมากที่สุดในประเทศ

กะหล่ำดอกโตสีเขียวที่มีอยู่มากมายมองดูสวยแปลกตา จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันมาถ่ายรูปเก็บภาพความสวยงามที่บนยอดภูแห่งนี้ แล้วถ้าเกิดติดใจอยากจะซื้อติดไม้ติดมือมาก็ขอซื้อกันได้เลย

โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคม กะหล่ำปลีโตเต็มที่กำลังงาม พร้อมตัดเอาไปขายกันแล้ว ถ้าเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป บรรยากาศหนาวเย็น พร้อมกับความสวยงามของทะเลหมอกขาว โพลนจะเข้ามาแทนที่

รวมถึงไม้เมืองหนาวต่างๆ จะเริ่มผลิบานในช่วงนี้ ยิ่งช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม อาจจะได้เห็นภูทับเบิกเป็นสีชมพูไปทั่วจากดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือ "ซากุระเมืองไทย"

นอกจากนี้ ในยามค่ำคืน ถ้าอยู่บนภูทับเบิก แล้วมองลงไปเบื้องล่าง จะมองเห็นแสงไฟ ระยิบระยับจากบ้านเรือนใน อ.หล่มสัก ที่หลายคนเปรียบเป็น "ดาวบนดิน" อันสวยงาม จนเกิดคำขวัญว่า "นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน"

สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ ถ้ามาโดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางจากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพหลโยธิน ผ่าน จ.สระบุรี มุ่งหน้าสู่ จ.ลพบุรี ไป จ.เพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสัก

ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตามทางหลวงหมkยเลข 2011 และทางหลวงหมายเลข 2331 อีก 40 กิโลเมตร ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

จากตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปอีก6 กิโลเมตร เส้นทางจากหล่ม เก่ามาภูทับเบิกจะสูงชัน และคดเคี้ยว รถบัสไม่สามารถขึ้นได้ ผู้ที่ใช้รถยนต์หรือรถตู้ควรขับรถด้วยความระมัด ระวัง

อีกเส้นทางหนึ่ง ใช้เส้นทางด้านอ.นครไทย จ.พิษณุโลก ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เลยที่ทำการอุทยานฯ มา 24 กิโลเมตร จะถึงภูทับเบิก หากขับรถต่อไปจะมาบรรจบกับเส้นทางที่จะลงไปยัง อ.หล่มเก่า

หรือใครอยากจะไปแบบชิลๆ ไม่เร่งรีบ หรือไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็เดินทางด้วยรถยนต์โดยสารประจำทาง นั่งรถโดยสารจากสถานีหมอชิต 2 มาลงที่ อ.หล่มสัก จากนั้นเหมารถสองแถวที่อยู่บริเวณหล่มสักขึ้นสู่ภูทับเบิก อัตราค่าจ้างประมาณ 1,200 บาท หรือแล้วแต่ตกลง

บริเวณหมู่บ้านทับเบิกและจุดชมวิว มีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ บ้านพัก เต็นท์ และร้านอาหารเปิดบริการแก่นักท่องเที่ยว เป็นจำนวนมาก

ถ้ายังไม่มีโปรแกรมไปไหน ภูทับเบิก เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ ที่จะสามารถสัมผัสอากาศเย็นๆ พร้อมชมวิวสวยงาม รับรองไม่ผิดหวัง








เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน