จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เตรียมจัดชุดไล่ล่าแก๊งคนร้ายยิงถล่มด่านตรวจ

ผบช.ภาค 5 เผยจัด 6 ชุดไล่ล่ากลุ่มคนร้ายยิงถล่มด่านตรวจ ตร.แม่ฟ้าหลวง เผยได้รับแจ้งจาก ตร.ฝั่งพม่า ระบุ 1 ในคนร้ายถูกยิงเสียชีวิตอยู่ที่ รพ.ท่าขี้เหล็ก ขณะที่สาวปริศนาหอบลูก อ้างเป็นญาติคนร้ายที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ...

เวลา 13.30 น. วันที่ 23 ม.ค.55 พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภาค 5 พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทปุญญนนท์ รรท. ผบก.เชียงราย นายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.เชียงราย ได้เดินทางไปที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เข้าเยี่ยม ด.ต.โยธิน แก้วคำอ้าย ตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวง ที่ถูกคนร้ายยิงด้วยอาวุธปืนอาก้า เข้าที่บริเวณต้นขา โคนขาขวา และสะโพกขวารวม 3 นัด ได้มอบดอกไม้และเงินช่วยเหลือต่างๆ พร้อมรับศพ ร.ต.ต.ศิรวิชย์ พูลกำลัง อายุ 40 ปี รอง สวป.สภ.แม่ฟ้าหลวง ที่เสียชีวิตจากการยิงต่อสู้กับกลุ่มคนร้าย ขณะที่ตั้งด่านตรวจอยู่บนถนนเลียบชายแดนไทย-พม่า ปากทางเข้าหมู่บ้านจะลอ บนดอยช้างมูบ ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ตรงข้ามกับบ้านผาขาว จ.ท่าขี้เหล็ก ฝั่งพม่า ส่วนคนร้ายชื่อ ยาโจ่ ถูกยิงเสียชีวิตตายคาที่ 1 ศพ ยึดรถยนต์ปิกอัพโตโยต้าทะเบียนพม่าได้ 1 คัน นำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดห้วยไคร้ใหม่ ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย พร้อมด้วยกองตำรวจเกียรติยศ ในเย็นวันเดียวกัน โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส.จะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ เวลา 16.00 น.

ขณะเดียวกัน ได้มี น.ส.นุชรดี ติแส อายุ 34 ปี เลขที่ 418 ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมกับหญิงอุ้มเด็กมาด้วย 1 คน อ้างตัวเป็นญาติห่างๆ ของนายยาโจ่ ชาวลาหู่ อายุ 30 ปี อาศัยอยู่ บ.ผาขาว ฝั่งพม่า ตรงข้ามที่เกิดเหตุ คนร้ายที่ยิงปะทะกับตำรวจ จะมาขอรับศพกลับพม่า ซึ่ง พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ได้ให้นางสาว นุชรดี ไปให้การที่ สภ.แม่ฟ้าหลวง ก่อนจะรับศพไปได้

ด้าน พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภาค 5 กล่าวว่า ตั้งแต่เช้าวันเดียวกันนี้ ได้ส่งตำรวจ นปพ.ภาค 5 ร่วมกับตำรวจ นปพ.เชียงราย รวม 6 ชุด ประสานกับฝ่ายทหาร เข้าไปเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ได้พบปลอกกระสุนอาก้าตกอยู่อีก 1 นัด และจากการประสานกับตำรวจ จ.ท่าขี้เหล็ก ฝั่งพม่า ให้ช่วยติดตามคนร้ายที่หลบหนีไป ก็ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่หน้าอก 1 คน ชื่อนายจื่อ อายุประมาณ 18 ปี เข้ารับการรักษาตัวและเสียชีวิตที่ รพ.ท่าขี้เหล็ก คาดว่าจะเป็นคนร้ายที่เกิดยิงปะทะกับตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวง ซึ่งจะได้ประสานขอข้อมูลอีกครั้ง ส่วนการบำเหน็จความดีความชอบแก่ตำรวจผู้ตาย จะได้ขอพระราชทานเพลิงศพแก่ ร.ต.ต.ศิรวิทย์ พูลกำลัง และจะได้รับการปูนบำเหน็จ 7 ชั้นยศ ตามระเบียบ และมีเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวอีกจำนวนหนึ่ง ส่วน ด.ต.โยธิน แก้วคำอ้าย ที่ได้รับบาดเจ็บ จะได้รับการช่วยเหลือ ดูแลรักษาพยาบาลอย่างดีที่สุด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

พล.ต.ต.สุเทพ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบาย ให้มีการตรวจค้นหมู่บ้านแหล่งพักยา ตามตะเข็บชายแดน และขณะนี้ได้สั่งการให้มีการเข้าปิดล้อมหมู่บ้านริมชายแดน บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ตรวจค้นยาเสพติดอย่างเข้มข้น และไล่ล่าติดตามคนร้ายที่ยิงตำรวจตายครั้งนี้ ซึ่งคาดว่ามีอีกประมาณ 7-8 คน ให้สำเร็จ โดยจะประสานกับหน่วยงานทุกฝ่าย และทางการพม่าร่วมปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาดต่อไป.