วันนี้ ( 24 ม.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.ท.สุภัทร ศรีภา พงส.(สบ1) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บภายในซอยโพธิ์แก้ว 3 แยก 19 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ ไปตรวจสอบพร้อมพล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รรท.ผบก.น.4 พ.ต.อ.ลือชัย สุดยอด รองผบก. พ.ต.อ. ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สถาบันนิติเวช แพทย์จากรพ.ตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต๊กตึ๋ง
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียง 400 เมตร บริเวณพงหญ้าข้างทางพบศพนายปัญญา หรือ ฟลุก หอมจันทร์ อายุ 26 ปี เสียชีวิตถูกยิงด้วยปืนขนาด 11 มม. สภาพศพสวมหมวกกันน็อกสีดำ เสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าแตะนอนคร่อมรถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ ฟีโน่ สีดำคาดขาว ทะเบียน มขภ110 กรุงเทพ ในตัวมีปืนปากกาอยู่ในกางเกง 2 ด้าม ถูกยิงเข้าที่แขนขวา 1 นัด ซี่โครงขวา 2 นัด กระสุนทะลุซี่โครงซ้าย ที่ขาข้างขวา 2 นัดและหน้าตักด้านซ้าย 1 นัด ส่วนคนเจ็บนำส่งรพ.เวชธานี ทราบชื่อนายสมชาติ หรือ ต้อง พูนแก้ว อายุ 25 ปี เป็นคนซ้อนถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ คอ 1 นัด ซี่โครง 1 นัดและช่องท้อง 1 นัด ล่าสุดอาการพ้นขีดอันตราย ห่างออกไปราว 10 เมตร พบปลอกกระสุนและหัวขนาด 11 มม.ตกอยู่ในที่เกิดเหตุกว่า 10 ปลอก
จากการสอบสวนนายเสกข์สิทธิ พิณาวานิชธนันท์ เพื่อนคนตายและคนเจ็บ ซึ่งเห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนทั้งสามไปรวมตัวกันที่บ้านนายสมชาติ ในซอยลาดพร้าว 101 เพื่อแต่งรถและนั่งดื่มกิน โดยก่อนหน้านี้มีโทรศัพท์ดังเข้ามาที่เครื่องของนายสมชาติ ตนได้ยินเสียงทะเลาะโวยวายกัน แต่ไม่คิดอะไร จนช่วงใกล้เวลา 05.30 น. พวกตนได้นำรถออกไปขับประลองความเร็วบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยนายปัญญากับนายสมชาติ ขี่รถจยย.คันเกิดเหตุ ส่วนตนขี่รถจยย.อีกคันตามไป
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนอยู่ด้านหลังห่างจากรถนายปัญญา ประมาณ 10 เมตร จังหวะดังกล่าวมีรถเก๋งมาสด้า 3 สีเขียวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เปิดไฟสูงไล่หลังพวกตนมา ก่อนจะแซงไปเทียบรถของนายปัญญา แล้วเปิดกระจกรถลงทั้ง 2 ด้าน ตนเห็นว่ามีคนอยู่ในรถประมาณ 4 คน แต่ทันใดนั้นก็มีประกายไฟออกมาพร้อมเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว โดยรถคันดังกล่าวขับไล่ยิงมากว่า 10 เมตร จนนายปัญญาขี่รถจยย.ล้มลงไป รถคันดังกล่าวจึงขับหลบหนี ตนเห็นนายสมชาติ ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด จึงรีบพาเพื่อนไปส่งรพ.ทันที
พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า ชุดสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุคือกลุ่มของนายแมน โดยก่อนเกิดเหตุทางกลุ่มคนร้ายได้ส่งข้อความมาหามือถือนายสมชาติ ตอนเที่ยงคืนครึ่ง ข้อความว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตำรวจ” ก่อนที่ช่วงเช้ามืดกลุ่มผู้ตายจะขับรถออกมา อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ตายเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดที่สน.ลาดพร้าวมาแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บเคยโดนจับคดีอาวุธปืนที่สน.เดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าทั้งคู่อาจมีปัญหาขัดแย้งกัน ซึ่งจะได้คุมตัวนายแมนมาสอบปากคำโดยละเอียดเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
