ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




จ.ปทุมธานี ตร.จับนักค้ายาเสพติดระดับชาติ

จ.ปทุมธานี ตร.จับนักค้ายาเสพติดระดับชาติ

จนมุมแล้วนิพนธ์ หรือ"แดง เป็นต่อ"เสี่ยเต็นท์รถเครือข่ายยาบ้า"ฟูเฉิน" ตำรวจล็อกตัวได้ขณะกบดานในบ้าน"พันโท"ทัพภาค 3 นำรถติดป้ายราชการไปรับของจากแม่สายมาส่งที่อยุธยา ก่อนกระจายต่อให้เครือข่ายส่งเอเยนต์ โดยมีขาใหญ่คุกบางขวางเป็นคนประสานงาน และสั่งออร์เดอร์ หลังถูกตร.ตามแกะรอยจับกุมได้ที่บ้านพักย่านปทุมธานี เผยของกลางล็อตใหญ่ที่ยึดได้หากทำงานสำเร็จจะได้ค่าจ้างถึง 24 ล้านบาท ด้าน ทบ.เต้นสั่งพักราชการพันโท ที่ถูกพาดพิงทันที "เฉลิม"สั่งขยายผลต่อทลายทั้งเครือข่าย

จากกรณีตำรวจตรวจพบยาบ้าและยาไอซ์จำนวนมหาศาลซุกอยู่ในบ้านเดี่ยวหมู่บ้านสัมมากร คลองสอง ถนนรังสิต นครนายก ของนางจริญญา หาญณรงค์ หรือลูกตาล อดีตรองนางสาวไทย พบว่าให้นายนิพนธ์ กันชาติ หรือ"แดง เป็นต่อ"อายุ 54 ปี เจ้าของเต็นท์ขายรถยนต์มือ2 ชื่อ"เป็นต่อ" เช่าเอาไว้ โดยสืบพบว่าเป็นเครือข่ายของ"ฟูเฉิน"นายชาญณรงค์ มูเซอ หรือเกษมทัศน์ ญาติ"ขุนส่า"อดีตราชายาเสพติด ตำรวจจึงขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก เหลือเพียงนายนิพนธ์ ที่หลบหนีไปได้ นั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 25 ม.ค. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช. ภาค 1 นำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านบ้านเลขที่ 55/496 หมู่บ้านพฤกษ์ลดา 1 หมู่ 6 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังได้เบาะแสว่าเป็นที่กบดานของนายนิพนธ์ ตามที่นายธัชกร หรือโจ๊ก ช่อสัตยธรรม สมุนมือขวาซึ่งช่วยดูแลเต็นท์ขายรถมือ 2 ซึ่งเป็น ธุรกิจบังหน้า และร่วมขนส่งยาเสพติดที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ให้การว่า พาลูกพี่มาหลบที่บ้านดังกล่าว เมื่อไปถึงพบนายนิพนธ์อยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงเข้าล็อกตัวและเข้าค้นภายในบ้านพักพบของกลางจำนวนหนึ่ง ก่อนพามาเค้นสอบขยายผลถึงเพื่อนร่วมแก๊งและเครือข่ายยาเสพติด ที่ศูนย์สืบสวนตำรวจภูธรภาค 1

ต่อมาเวลา 14.00 น.พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ และพ.อ. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายนิพนธ์ อยู่บ้านเลขที่ 714 ถนนไฮเวย์ลำปาง-งาว ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมของกลางเงินสด 303,500 บาท แหวนเพชร 3 วง

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า การจับกุมครั้ง นี้สืบเนื่องมาจาก วันที่ 20 ม.ค. ตำรวจพบยาไอซ์จำนวนหนึ่งอยู่ภายในรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌบ-7510 กทม. ที่เสียหลักพุ่งชนกำแพงปูนกั้นขอบทางถนนมอเตอร์เวย์ (วงแหวนรอบนอกตะวันออก) ต.คลองสี่ จ.ปทุมธานี ภายในรถยังพบกระเป๋าใส่โน้ตบุ๊กยี่ห้อโซนี่ มีเอกสารและบัตรประจำตัวสมาชิกองค์การตรวจสอบอำนาจรัฐ (สากล) ระบุชื่อนายนิพนธ์ กันชาติ อายุ 53 ปี เป็นเจ้าหน้าที่กอ.รมน.ตำแหน่งปฏิบัติการปัญหาเส้นเขตแดน และการข่าวความมั่นคง (สากล) ออกโดยพล.ท.ปิติภาคย์ ป้อมนาค หัวหน้าคณะทำงานปัญหาเขตแดนสากล

"เจ้าหน้าที่จึงขยายผลตรวจค้นห้องพักของน.ส.จีรารัตน์ อินทรัตน์ อายุ 25 ปีแฟนสาวของนายนิพนธ์ ที่ออร์คิดคอนโดมิเนียม ย่านรัชดาฯ พบยาไอซ์อีกจำนวน 42 กรัม และพบเอกสารการเช่าบ้านบ้านเลขที่ 3 หมู่บ้านสัมมากร รังสิตคลอง 2 จึงได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้น กระทั่งมาพบยาบ้าและยาไอซ์จำนวนมาก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่สืบทราบได้ว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่บ้านเลขที่ 55/496 หมู่บ้านพฤกษ์ลดา 1 จึงเข้าจับกุมตัวพร้อมของกลางดังกล่าว

ส่วนนายนิพนธ์ให้การรับสารภาพว่าลักลอบขนยาบ้ามานานแล้ว ทำมาตั้งแต่ปี 2549 โดยมีนายพีระยุทธ์ แพศย์สกล หรือตี๋ ที่รู้จักในเรือนจำบางขวางติดต่อให้ขนส่งจากชายแดน จ.เชียงราย มายังภาคกลาง รับค่าจ้างยาไอซ์กิโลละ 5 พันบาท ส่วนยาบ้าเม็ดละ 50 สตางค์ โดยจะรับออร์เดอร์มาจากนายฟูเฉิน แล้วนำรถไปรับที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมกันนี้นายนิพนธ์ซัดทอดว่าเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนคือ พ.ท.ปิยะณัฐ เกตุจำรัส นายทหารสังกัดกองพันทหารช่าง กองทัพภาคที่ 3 ค่ายบรมไตรโลกนาถ ทำหน้าที่ขับรถตู้ติดป้ายหน่วยราชการไปรับยาเสพติดจากแม่สายมาส่งที่ย่านนวนคร หรือ จ.พระนคร ศรีอยุธยา

"ส่วนผมจะนำรถตู้อีกคันไปรอรับมาส่งต่อให้นายกอล์ฟ ลูกน้องนายฟูเฉิน ที่ย่านดอนเมือง จากนั้นนายกอล์ฟจะกระจายยาเสพติดให้ เอเยนต์ในเขตภาคกลางหรือกรุงเทพฯ ต่อมาก็มาเช่าบ้านที่ย่านปทุมธานี ไว้เป็นที่พักของเนื่องจากมีของให้ส่งจำนวนมาก โดยของกลางที่ตำรวจยึดได้นั้นถือว่าเป็นการขนส่งล็อตใหญ่ที่สุด ได้ค่าจ้างถึง 24 ล้านบาท ส่วนที่ผ่านมาเคยลักลอบขนมาแล้ว 6-7 ครั้ง" นายนิพนธ์ ให้การ

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับพ.ท.ปิยะณัฐ ที่ผู้ต้องหาให้การซัดทอดนั้น ผู้บังคับบัญชาสั่งให้พักราชการไว้แล้ว และจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เร่งขยายผลจับกุมผู้ที่อยู่ในขบวนการและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งพลเรือนและทหารหรือตำรวจที่เกี่ยวข้อง มาดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาจะได้ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่าจากการสอบสวนพบว่านายพีระยุทธ์ หรือตี๋ ปัจจุบันต้องโทษในเรือนจำบางขวาง ซึ่งเป็นผู้ชักชวนให้นายนิพนธ์ มาร่วมขนส่งยาเสพติด จะคอยทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับฟูเฉิน และนายนิพนธ์ ในการเดินทางไปรับยาเสพติด รวมทั้งระบุเส้นทางนำของไปส่งให้เอเย่นต์ด้วย

ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าหลังจับผู้ต้องหาได้และพบข้อมูลว่ามีข้าราชการบางส่วนเกี่ยวข้องซึ่งไม่คาดคิดมา ก่อน แต่จะเป็นข้าราชการส่วนไหนนั้นเร็วๆ นี้คงรู้ แต่ยืนยันว่ามีข้าราชการเกี่ยวข้องโดยวิธีการซื้อคือสั่งจากคุกบางขวาง รู้ชื่อทั้งหมด พฤติกรรมเลวร้ายมาก ใช้วิธีโทรศัพท์ 3 สาย มีข้าราชการเป็นคนขนออกมาจากอยุธยา ผู้ต้องหาที่ถูกจับก็รับต่อมาเก็บไว้จนถึงคราวซวย ดังนั้นต้องกวาดล้างครั้งยิ่งใหญ่ ไม่มีเกรงใจใครทั้งนั้น

"บอกกับเจ้าหน้าที่แล้วว่าไม่ว่าจะเป็นข้าราชการส่วนไหนต้องจับและผมรับผิดชอบเอง แต่อย่าใส่ร้าย กลั่นแกล้ง อย่าไปหาหลักฐานพาดพิงโดยไม่เป็นจริง ดังนั้น จึงบอกว่าคุกพิเศษต้องมีขึ้น อย่ามาคัดค้าน เพราะในคุกมีอิทธิพล ผู้ต้องขังมีการพัฒนาจากโจรเป็นมหาโจร จึงต้องมีคุกพิเศษรองรับเพื่อให้ไปอยู่ต่างหาก ใช้ผู้คุมที่มีคุณภาพมากกว่าผู้คุมทั่วไป มีคุณภาพเอ็กซ์ตร้า" รองนายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานข่าวระบุข้าราชการที่เกี่ยวข้องเป็นทหารทำงานในกอ.รมน. ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังไม่ได้บอกว่าเป็นทหาร บอกแค่เป็นข้าราชการเท่านั้น แต่อีกไม่นานก็ทราบรายละเอียดทั้งหมด อย่างไรก็ตามยอมรับว่าทุกวันนี้มีการทำบัตรปลอมจำนวนมาก แม้แต่บัตรทำเนียบก็กลาด เกลื่อน ซึ่งต้องขอความร่วมมือข้าราชการทุกภาคส่วนว่า หากตำรวจเข้าตรวจค้นใครอย่าถือ ว่าไม่ให้เกียรติ เพราะพวกปลอมปนมาแอบอิง ย้ำว่ายังไม่ได้ระบุว่าเป็นข้าราชการหน่วยไหนแต่งานนี้ยาว ตอนนี้สามารถทราบโครงข่ายใหญ่ทั้งหมดแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า เราต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือต้นทางประเทศที่สามที่ผลิตและส่งมา เพราะตอนนี้เราแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เมื่อถามว่ามีนักการเมืองเกี่ยวข้องหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ถ้ามีเกี่ยวก็จับหมดแต่ต้องมีพยานหลักฐาน เมื่อถามว่าขณะนี้บ้านเรามีอาชญากรรมจำนวนมาก พกปืนไล่ยิงอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เป็นเพราะรัฐบาลชุดที่แล้วอนุญาตให้นำปืนเข้ามาจำนวนมากหลายแสนกระบอก ซึ่งเคยอภิปรายเรื่องนี้แล้ว เชื่อว่าการนำเข้าปืนต้องมีคนได้ประโยชน์ ซึ่งเร็วๆ นี้ตนจะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสังคายนาเรื่องนี้

พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกอ.รมน. ให้สัมภาษณ์กรณีนายนิพนธ์ มีบัตรประจำตัวกอ.รมน. ระบุเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการปัญหาเส้นเขตแดนและการข่าวความมั่นคงสากล ตรวจสอบอำนาจรัฐสากล นั้นว่ากอ.รมน.ไม่มีหน่วยงานนี้ในโครงสร้าง และการที่พบว่าบัตรของนายนิพนธ์ออกโดยพล.ท.ปิติภาคย์ ป้อมนาค ทำงานกอ.รมน. นั้นจากการตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าว เคยทำงานที่กอ.รมน.ตั้งแต่ปี 44-49 จริง แต่เกษียณไปแล้ว ตอนนี้ทางกอ.รมน.ไปแจ้งความและจะเร่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตามจับคนทำผิดมาลงโทษ







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน