กทม.ไอ้หื่นบ้ากามขโมยชุดชั้นในหญิง

เดิมทีก็เป็นเรื่องจับโจรลักทรัพย์รายใหญ่ที่ก่อเหตุเจาะตู้เซฟลักทรัพย์เท่านั้น แต่เมื่อขยายผลตรวจค้นไปที่รถยนต์ และบ้านพักของผู้ต้องหา ก็ถึงกับตะลึง

เมื่อปรากฏชุดชั้นในกองมหึมาซุกซ่อนไว้ตามที่ต่างๆ

เมื่อสอบสวนผู้ต้องหาก็รับสารภาพสิ้นว่าก่อเหตุเช่นนี้มากว่า 30 ปี สะสมชุดชั้นในมากกว่าหมื่นตัว!

โดยใช้โอกาสที่เข้าไปเจาะตู้เซฟ หรือลักทรัพย์ มองหาชุดชั้นในเอาติดไม้ติดมือไปสำเร็จความใคร่ด้วยทุกครั้ง

เหตุการณ์นี้ เริ่มจากเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 54 เมื่อ พ.ต.อ.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผกก.สน.พลับพลาไชย 1 รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์สินภายในห้างหุ้นส่วนจำกัด เมโทร ประเก็น 2001 โดยคนร้ายเจาะตู้เซฟกวาดเงินสดไปได้กว่า 4 แสนบาท

เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้างก็พบภาพคนร้าย 2 คน คนหนึ่งรูปร่างล่ำ มีพุง ใส่ชุดไอ้โม่ง นอก จากนี้เมื่อตรวจสอบย้อนหลังพบว่า ในเขตพื้นที่บก.น.6 มีเหตุการณ์ลักตู้เซฟในลักษณะเดียวกันนี้หลายครั้ง เชื่อว่าต้องเป็นโจรมืออาชีพที่ลงมือต่อเนื่อง

จึงกระจายข่าวออกไปในบรรดาสายสืบ เพื่อค้นหาบุคคลที่มีภาพคล้ายในรูปในกล้องวงจรปิด

จนกระทั่งวันที่ 24 ม.ค. เมื่อ พ.ต.ท.ธนันท์ รัตนสิทธิภาคย์ รอง ผกก.ปป. สน.พลับพลาชัย 1 พร้อมเจ้าหน้าที่ กำลังตรวจพื้นที่บริเวณถนนพลับพลาไชยตัดซอยเฉลิมเขตร์ 1 พบชาย 2 คนรูปร่างคล้ายคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุในห้างเมโทร จึงเข้า ไปซักถามพร้อมขอตรวจรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู หมายเลขทะเบียน ภจ 8555 กทม. ที่จอดอยู่ใกล้เคียง

เมื่อเปิดรถก็เจออุปกรณ์งัดแงะเพียบ ทั้งคีมตัดเหล็ก ชะแลง เลื่อยตัดเหล็ก ไขควง หมวกไหมพรม ไฟฉาย ถุงมือ เชือกสำหรับโรยตัว และตั๋วจำนำจำนวน มาก

เมื่อเค้นสอบทั้งคู่ก็ให้การรับสารภาพหมดสิ้น

โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ชื่อ นายดนัย รายเวทย์ อายุ 48 ปี และ นายวสันต์ วิริยะ อายุ 32 ปี และยิ่งไปกว่านั้น ทั้ง 2 ก็ยังรับอีกว่าก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง จนผู้ต้องหาก็ยังจำได้ไม่หมด รวมทรัพย์สินที่แก๊งเจาะเซฟแก๊งนี้กวาดไปไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท

ในการก่อเหตุแต่ละครั้ง คนร้ายจะเลือกเข้าบ้านหรือบริษัทที่ไม่มีคนอยู่ในเวลากลางคืน อำพรางใบหน้าด้วยหมวกไหมพรม ปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคารแล้วเจาะเข้าไปภายใน เจาะตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สิน แล้วใช้เชือกโรยทรัพย์สินลงมาก่อนขนย้ายหลบหนีไป นำทรัพย์สินที่ได้ไปขายเอาเงินมาแบ่งกันใช้กินและเที่ยวเตร่

ตรวจประวัติต่อไปก็ถึงกับอึ้ง เพราะนายดนัยนั้นมีประวัติอาชญากรรมยาวเป็นหางว่าว ทั้งเรื่องลักทรัพย์ห้างบิวตี้เจมส์ กวาดทรัพย์สินไปร่วม 60 ล้านบาท คดีก็ยังคาราคาซังอยู่

นอกจากนี้ยังเคยถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหาขโมยกางเกงในสตรี ในพื้นที่สน.คลองตัน

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อตรวจรถยนต์คันดังกล่าวโดยละเอียด และไปตรวจสอบขยายผลที่บ้านพัก ก็เจอชุดชั้นในกว่าหมื่นตัว

นายดนัยสารภาพว่าเริ่มลักกางเกงในมาตั้งแต่อายุ 18 ปี สะสมเรื่อยมากว่า 30 ปี จนปัจจุบันอายุ 48 ปี

"ผมใช้ช่วงเวลาที่เข้าไปลักทรัพย์ แอบดูว่ามีชุดชั้นในผู้หญิงบ้างหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องหยิบติดมือไปทุกครั้ง เพื่อเอาไปสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง ผมยอมรับว่ามีอารมณ์กับชุดพวกนี้มาก"

"ทำมาตั้งแต่วัยรุ่น มันอดใจไม่ไหวจริงๆ จนถึงตอนนี้แม้มีภรรยาและลูกแล้ว ก็ยังทำอยู่"

ด้าน น.พ.ทวี ตั้งเสรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ลักษณะดังกล่าวทางจิตวิทยา เรียกว่า กามวิปริต ซึ่งคนกลุ่มนี้มักมีลักษณะไม่มั่นใจในตนเอง และความเป็นชายของตนเอง ไม่สามารถสร้างสัมพันธภาพกับเพศตรงข้ามได้ และไม่สามารถมีความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ ทำให้แสดง ออกด้วยการขโมยสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ทางเพศ คือ ชุดชั้นใน หรือ บางคนก็ชอบขโมยรองเท้า เป็นต้น

"คนกลุ่มนี้ภายนอกจะไม่สามารถสังเกตได้ว่ามีความผิดปกติ บางคนภายนอกมีความเป็นสุภาพบุรุษมากแต่ก็ชอบขโมยชุดชั้นใน ซึ่งจะทราบว่าใครเป็นต่อเมื่อจับได้เท่านั้น"

น.พ.ทวี กล่าวอีกว่า อาการของผู้ที่เป็นกามวิปริต สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการบำบัด โดยจะต้องอาศัยการปรับพฤติกรรม และจะหายได้ต่อเมื่อผู้ป่วยเต็มใจในการรักษา หากเป็นการบังคับส่วนใหญ่จะไม่สามารถรักษาให้หายได้ มักจะกลับไปขโมยแบบเดิมเมื่อมีโอกาส เพราะไม่มีแรงผลักดันให้อยากเลิกพฤติกรรมนั้นๆ หากพบว่าตนเองมีพฤติกรรมชอบขโมยชุดชั้นในของผู้อื่น หมายถึงกำลังมีความผิดปกติเป็นกามวิปริต สามารถรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ในทุกโรงพยาบาลได้

ผู้ป่วยที่เป็นกามวิปริตส่วนใหญ่จะไม่แสดงออกถึงความก้าวร้าวหรือทำอันตรายใคร แต่ก็ถือว่าเป็นภัยสังคมเพราะขโมยของผู้อื่น ซึ่งหากมีการแสดงออกที่ก้าวร้าวทางเพศ จะเป็นกามวิปริตประเภทอื่น

ปิดฉากจอมโจรเจาะเซฟ พร้อมส่งบำบัดกามวิปริตต่อไป

กทม.ไอ้หื่นโรคจิตบ้ากามขโมยชุดชั้นใน