จ.ชลบุรี ตะลึงฉีกแบงก์ทิ้งถังขยะ 1.3ล.

ตะลึงพบเงินสดกว่า 1 ล้านบาทถูกฉีกทิ้งถังขยะหน้าร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอ.บ้านบึง ชลบุรี เจ้าของร้านมาเจอถึงผงะ พบธนบัตรฉีกเป็นชิ้นๆ รีบแจ้งตร.-จนท. แบงก์มาตรวจสอบ พบเป็นแบงก์ของแท้น้ำหนัก 1.3 ก.ก. คิดเป็นเงินประมาณ 1.3 ล้านบาท วิจารณ์ขรมอาจเป็นเงินแก๊งยาเสพติด หรือเกี่ยวข้องกับคดีปล้นเงินบ้านอดีตปลัดคมนาคม ที่คนร้ายนำมาทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน ขณะที่ตร.ไม่ยอมให้ข้อมูลหรือบันทึกภาพอ้างกลัวผู้ใหญ่ไม่พอใจ ด้านผบช.น.ประสานผบช.ภาค2 ขอรายละเอียดว่าจะเป็นเงินที่เกี่ยวกับคดีปล้นบ้านอดีตปลัดจริงหรือไม่

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุแปลกประหลาดขึ้นในพื้นที่อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เมื่อนายไพฑูรย์ วิทยารำพระ เจ้าของร้านทรัพย์มงคล จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า อยู่บ้านเลขที่ 115/7 ถนนเทศบาล 2 ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง พบธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ทิ้งในถังขยะหน้าร้าน ด้วยความตกใจจึงแจ้งตำรวจสภ.คลองกิ่ว เดินทางมาตรวจสอบ

ต่อมาตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน เดินทางมาดูเงินจำนวนดังกล่าว และเมื่อนำไปชั่งน้ำหนักได้มากถึง 1.3 กิโลกรัม เทียบเท่าเงินจำนวน 1.3 ล้านบาท ระหว่างนั้นมีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาดูกันจำนวนมาก พร้อมวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ว่าอาจจะเป็นเงินของแก๊งยาเสพติด หรือเป็นเงินที่เกี่ยวเนื่องกับข่าวใหญ่ในขณะนี้ คือคดีปล้นเงินบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งคนร้ายต้องการทำลายหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบเพิ่มเติมที่สภ.คลองกิ่ว แต่เจ้าหน้าที่บ่ายเบี่ยงว่าไม่ทราบข้อมูล และไม่อนุญาตให้บันทึกภาพธนบัตรที่พบ อ้างว่ากลัวผู้ใหญ่ตำหนิ จึงยิ่งทำให้ชาวบ้านที่ทราบเรื่องและต้องการรู้ความเป็นไปเป็นมาของการฉีกเงินครั้งนี้ เกิดความสงสัยมากขึ้น

ด้านพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีเงินที่ถูกฉีกทิ้งในพื้นที่จ.ชลบุรี และมีคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกี่ยวข้องกับเงินที่ปล้นไปจากบ้านนายสุพจน์ ว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่จะสอบถามจากผบช.ภาค 2 และประสานตามหาที่มาของเงินต่อไป

ด้านพ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รองผบก.ภ. จว.ชลบุรี กล่าวว่า ในวันนี้รับรายงานจากชาวบ้านว่าพบธนบัตรถูกฉีกทิ้งทำลายภายในถังขยะของปั๊มน้ำมัน ใกล้กับตลาดคลองกิ่ว ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เมื่อตรวจสอบพบธนบัตรถูกฉีกทำลายน้ำหนักรวมประมาณ 1 กิโลกรัมเศษ จากนั้นจึงส่งให้ธนาคารตรวจสอบและได้รับการยืนยันว่าเป็นธนบัตรของจริง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงส่งธนบัตรทั้งหมดไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนเงินจำนวนนี้จะเกี่ยวข้องกับเงินที่ถูกปล้นจากบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคมหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกัน