ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




จ.ปทุมธานี พ่อคลั่งสาวสลัดรักจับลูกสาววัย 13 เป็นตัวประกัน

จ.ปทุมธานี พ่อคลั่งสาวสลัดรักจับลูกสาววัย 13 เป็นตัวประกัน

หนุ่มนครสวรรค์คลั่งม่ายสาว จับลูกสาววัย 13 เป็นตัวประกันนานกว่า 5 ชม. ขู่ใครเข้าช่วยจะระเบิดบ้าน สุดท้าย ตร.วางแผนเข้าชาร์จช่วยตัวประกันได้อย่างปลอดภัย...

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 ก.พ. 55 เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิทยุแจ้งเหตุ สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกเข้าไปในบ้านเรือนประชาชน แล้วจับตัว ด.ญ.วัย 13 ปี เป็นตัวประกัน ขอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและช่วยเหลือด้วย เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 39/109 หมู่บ้านพรพิมาน ม.1 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี หลังรับแจ้งจึงรางายผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ต่อมา พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผกก.สภ.ธัญบุรี พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและชุดสายตรวจประมาณ 30 นาย รุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง พบว่าบ้านที่เกิดเหตุนั้นเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่พบกลุ่มชาวบ้านจำนวนมาก กำลังยืนมุงดูเหตุการณ์จึงต้องกันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปนอกบริเวณ ในเบื้องต้นพบ นางชนาภา เอี่ยมสะอาด อายุ 65 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุให้การว่า คนร้ายที่บุกเข้าไปในบ้านและจับตัว ด.ญ.ป้อม (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวของตนเองเป็นตัวประกัน คือนายวิชัย แสงนาค ซึ่งเคยมาติดพันนางญิชกานต์ เอี่ยมสะอาด อายุ 35 ปี ที่เป็นบุตรสาวของตนเอง และเป็นแม่ของ ด.ญ.ป้อม

โดยคนร้ายนั้นใช้อาวุธมีดเป็นอาวุธข่มขู่ และห้ามไม่ให้ใครเข้าไปในบ้าน ไม่เช่นนั้นจะทำร้าย ด.ญ.ป้อม และจะเปิดแก๊สจุดไฟให้ระเบิดไหม้บ้านด้วย ทั้งนี้ทราบจากเพื่อนบ้านว่า คนร้ายหรือนายวิชัยนั้น ได้เข้ามาในหมู่บ้านในช่วงบ่าย และวนเวียนไปมา จนหลานสาวของตนเองกลับมาจากโรงเรียน และเข้ามาในบ้านคนร้ายที่รออยู่จึงเข้าจับตัวดังกล่าว

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ ตนเองทราบว่า นายวิชัยนั้นเป็นชาวนครสวรรค์ และได้รู้จักและพูดคุยกับนางอ้อ หรือนางณิชกานต์ บุตรสาวของตนเองทางเฟซบุ๊ก โดยติดต่อกันมาระยะหนึ่ง แต่ลูกสาวของตนเองไม่สนใจ จนทำให้นายวิชัยไม่พอใจ จนเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ปี 2554 ที่ผ่านมา นายวิชัย ได้มาขู่บังคับบุตรสาวของตนเอง แล้วนำตัวไปอยู่ด้วยที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งในครั้งแรกนั้น ตนเองคิดว่าลูกสาวของตนเองหนีตามนายวิชัยไป แต่มาทราบจากลูกสาวในเวลาต่อมา ว่าถูกบังคับข่มขู่ไป และลูกสาวได้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจที่นครสวรรค์เข้าช่วยเหลือ จนมีการเจรจาพูดคุยกัน ซึ่งนายวิชัยก็ปล่อยให้กลับมาบ้านเมื่อวันที่ 9 ม.ค.55 ที่ผ่านมานี้เอง และนางณิชกานต์ เมื่อกลับมาบ้านแล้วก็ไม่กล้าอยู่บ้านอีก เพราะเกรงว่านายวิชัย จะมาทำร้ายอีก จึงหลบไปอยู่ที่อื่น แต่แล้วนายวิชัยก็ตามมาก่อเหตุในวันนี้อีกจริงๆ

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ระหว่างที่รอนางญิชกานต์ เดินทางมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเจรจาพูดคุยกับคนร้ายเ พื่อให้ใจเย็นๆ และยอมปล่อยตัวเด็กออกมา แต่คนร้ายยืนกรานไม่ยอมปล่อย และมีการปาระเบิดปิงปองที่พกติดตัวมาจนเกิดเสียงดังสนั่นอยู่หลายครั้ง จากนั้นในเวลาประมาณ 18.00 น. คนร้ายได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ซื้อข้าวมันไก่จำนวน 2 ห่อ ส่งเข้าไปในบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ก็ซื้อมาให้

ต่อมาในเวลาประมาณ 20.00 น. นางญิชกานต์ แม่ของเด็กก็เดินทางมาถึง และเข้าไปพูดคุยกับคนร้าย โดยคนร้ายก็ยังไม่ยอมเปิดประตูให้นางญิชกานต์เข้าไปในตัวบ้าน เพียงยินยอมให้เข้าไปในรั้วบ้านเท่านั้น โดยผลการพูดคุยคนร้ายก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวเด็กออกมา และบังคับให้ ด.ญ.ป้อม นั่งอยู่ข้างๆ ตัวคนร้าย และคนร้ายได้ถือมีดปังตอและไฟแช๊ค พร้อมทั้งนำถังแก๊สมาตั้งไว้ข้างๆ โดยขู่ว่าใครเข้าไปในบ้านจะระเบิดถังแก๊สโดยทันที

ต่อมาเวลา 21.00 น.พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช รอง.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ได้เดินทางมาดูในที่เกิดเหตุ และวางแผนงานในการเข้าช่วยเหลือตัวประกัน โดยส่งชุดสืบสวนเข้าไปทางด้านหลังบ้าน และ พ.ต.อ.วิสูตร เข้าไปทางหน้าบ้าน โดยทำทีพูดคุยหว่านล้อมให้คนร้ายหันมาสนใจ จากนั้นชุดสืบสวนได้เข้าทางด้านหลัง และบุกเข้าชาร์จจับตัวนายวิชัยเอาไว้ได้ ก่อนที่จะช่วยเหลือ ด.ญ.ป้อมออกมาได้อย่างปลอดภัย

หลังจากเข้าชาร์จจับกุมตัวนายวิชัย ผู้ก่อเหตุ และช่วยเหลือตัวประกันออกมาได้แล้ว ยังพบว่าคนร้ายนั่งทับกระเป๋าสะพายสีดำไว้ เจ้าหน้าที่จึงเกิดกระเป๋าดูก็พบว่ามีวัตถุคล้ายระเบิดขนาดกว้างประมาณ 1 คืบ มีสายไฟพันอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเร่งเก็บออกไปไว้ในที่ปลอดภัย ก่อนจะควบคุมตัวคนร้ายไปสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.วิสูตร กล่าวว่า ในเบื้องต้นนั้นคนร้ายยังมีลักษณะคล้ายคนเมา พูดจาวกวนไปมา ซึ่งต้องตรวจสอบก่อนว่า มีสารเสพติดในร่างกายหรือไม่ โดยในชั้นนี้คงต้องตั้งข้อหาเกี่ยวกับเสรีภาพ คือหน่วงเหนี่ยวกักขัง โดยมีอาวุธเพื่อประทุษร้าย บุกรุก ส่วนเรื่องวัตถุคล้ายระเบิดนั้น คงต้องส่งตรวจสอบถ้าเป็นวัตถุระเบิดจริง ก็จะต้องตั้งข้อหาเพิ่มและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน