กทม คนร้ายโหดแทงอกสาวสยองคาห้อง

ร.ต.อ.ธีรภพ ล้วนเส้ง พงส.(สบ1) สน.ลุมพินี  รับแจ้งเหตุหญิงต่างชาติถูกฆ่าตายในโรงแรมหรู ย่านสุขุมวิท  แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. , พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน รอง ผบก.น.5 , พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมหรู ตั้งอยู่ใจกลางย่านสุขุมวิท มีความสูง 32 ชั้น จากการตรวจสอบในห้องเลขที่ 1701 ชั้น 17 พบศพ นส.เวนดี้ เอส อัลบราโน่ อายุ 52 ปี สัญชาติอเมริกัน  สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดอยู่ในห้องน้ำ โดยสวมเสื้อชั้นในสีน้ำตาล  นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ถูกกระหน่ำแทงด้วยของมีคมเข้าที่หน้าอกรวม 5 แผล นอกจากนี้ที่ลำคอยังพบร่องรอยคล้ายถูกบีบรัดจนลิ้นจุกปาก แพทย์สันนิษฐานว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 20 ชั่วโมง จึงประสานให้เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาเดินทางมาร่วมตรวจสอบก่อนส่งมอบให้แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ ทำการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้าน พ.ต.ท.ปิโยรส เผยว่า จากการตรวจสอบสภาพในห้องที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่ไม่ทราบว่าทรัพย์สินผู้ตายสูญหายไปบ้างหรือไม่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่าผู้ตายเดินทางจากประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ามาประเทศไทยและพักที่โรงแรมแห่งนี้ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยการจองห้องพักผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งวันที่เดินทางมาถึงนั้นกล้องวงจรปิดของโรงแรมสามารถบันทึกภาพชายวัยรุ่นอายุประมาณ 25-30 ปี สัญชาติอินเดียถือกระเป๋าเข้ามาพักพร้อมผู้ตายด้วย และครั้งสุดท้ายเมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) ทั้งคู่ก็พากันเดินทางออกไปข้างนอกก่อนกลับเข้ามาที่ห้องพักเวลาประมาณ 19.00 น. 

จนกระทั่งเวลา 20.00 น.กล้องวงจรปิดได้จับภาพเพื่อนชายต้องสงสัยขณะถือกระเป๋าเดินออกจากห้องพักไปแค่เพียงคนเดียว จนมีแม่บ้านมาพบศพผู้ตายถูกฆ่าสยองหมกห้องพักเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ คาดว่าทั้งคู่คงจะมีปากเสียงกันก่อนที่ฝ่ายชายจะลงมือทำร้ายฝ่ายหญิงจนถึงแก่ความตาย แล้วหลบหนีไปในที่สุด

อย่างไรก็ตามจากการตรวจเช็คข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ทราบว่าชายต้องสงสัยคนดังกล่าวเดินทางออกนอกประเทศผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ทราบชื่อนายแสงห์วี ไรเทศ นาภาตัช อายุ 26 ปี สัญชาติอินเดีย สำหรับประเทศที่เดินทางไปเป็นประเทศในแถบเอเชีย โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งประสานสานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย และออกหมายจับผู้ต้องหาประสานให้ตำรวจสากลติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป