จ.ร้อยเอ็ด โหดข่มขืนเพื่อนสนิทลูกฆ่าหมกไร่อ้อย

เมื่อ 15 ก.พ. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.อ.กิตติพัฒน์ เฉิดเกียรติ ร้อยเวร สภ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งพบศพหญิงสาวเสียชีวิตในไร่อ้อย ติดกับบ้านอ่างคำ ต.สะอาดไชยศรี อ.ดอนจาน หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุชาติ ละลี รองผกก.สภ.ดอนจาน รักษาการแทนผกก.สภ.ดอนจาน พร้อมกำลังชุดสืบสวน แพทย์เวรเจ้าหน้าที่กู้ภัยเต๊กก่าไปตรวจสอบทันที

 ที่เกิดเหตุอยู่ในไร่อ้อย ห่างจากถนนประมาณ 20 เมตร พบศพหญิงนอนคว่ำหน้าเสียชีวิต ทราบชื่อคือน.ส.สุณี ต่ายเนาว์ดง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 193 ม.2 บ้านนาเลา ต.อัคคะคำ อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด สภาพท่อนบนเหลือเพียงเสื้อชั้นในสีขาว สวมกางยีนส์ขายาว บริเวณลำคอถูกรัดด้วยเสื้อยืด สภาพศพขึ้นอืด คาดว่าจะน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 4-5 วัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตและร่องรอยการถูกข่มขืนอย่างละเอียดอีกครั้ง

วันเดียวกัน พ.ต.ท.สุชาติ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามคนร้ายอย่างใกล้ชิด พร้อมรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำพยาน รวมทั้งญาติผู้เสียชีวิต กระทั่งรู้ตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัว ทราบชื่อคือนายบุญฉัน พัฒนโชติ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172 ม.2 บ้านนาเลา ต.อัคคะคำ ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และลูกสาวเป็นเพื่อนกับผู้ตาย โดยนายบุญฉัน รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือข่มขืนและฆ่า น.ส.สุณีจริง เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก พร้อมจัดกำลังเฝ้าอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีญาติผู้เสียชีวิตมารอเฝ้าอยู่หน้าโรงพักจำนวนมาก เกรงว่าผู้ต้องหาจะถูกทำร้าย

 ทั้งนี้ผู้ต้องหารับสารภาพว่า รู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นเพื่อนสนิทกับลูกสาว โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ น.ส.สุณี ได้ไปเที่ยวงานบุญข้าวจี่กับเพื่อนๆ ในตัว อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด และขากลับตนขออาศัยไปส่งที่บ้าน จึงวางแผนให้น.ส.สุณี ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วย กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุได้หยุดรถ และลงมือข่มขืน โดยเริ่มกระชากเสื้อ แต่ผู้ตายไม่ยอมพยายามต่อสู้ จึงต่อยท้องไป 1 ครั้ง และข่มขืน แต่ด้วยความโมโหจึงใช้เสื้อยืดของผู้ตายรัดคอจนเสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ดอนจาน ดำเนินคดีในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกข่มขืนถึงแก่ความตาย และฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดอื่นที่ตนกระทำ