ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




จ .เชียงใหม่ คนร้ายทุบหัวสาวพนักงานแว่นท็อปเจริญตายคาห้อง

จ .เชียงใหม่ คนร้ายทุบหัวสาวพนักงานแว่นท็อปเจริญตายคาห้อง

 

พ.ต.ท.พุฒิ มณเทียร พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ .เชียงใหม่ รับแจ้งมีพบศพหญิงสาวถูกฆ่าเสียชีวิตบนห้องพักชั้นสามของห้างแว่นท็อปเจริญ สาขาข่วงสิงห์ เลขที่ 47/7-8 ถนนโชตนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่เกิดเหตุพบศพนางสาวสกุลวลี ดีมาก อายุ 25 ปี ภายในห้องพบรอยเลือดกระจายไปทั่วและพบร่องรอยการต่อสู้ จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบผู้ตายถูกทุบด้วยของแข็งด้านหลังศรีษะเป็นรอยยุบ คาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 6-8 ชั่วโมง ส่วนสถานที่เกิดเหตุพบว่าบริเวณระเบียงชั้นสามของอาคารพาณิชย์ที่มีหลายคูหาติดกันเป็นทาง เดินเชื่อมต่อถึงกันได้ โดยเจ้าหน้าที่พบร่องรอยการงัดแงะประตูด้านหลังของอาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดกันและร่องรอยการงัดประตูบนดาดฟ้าของคูหาห้างแว่นท็อปเจริญรวมทั้งบริเวณประตูเข้าห้องของนางสาวสกุลวดี ด้านที่ติดกับดาดฟ้าจึงเก็บหลักฐานรอยนิ้วมือไปตรวจสอบ
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเป็นพนักงานของห้างแว่นท็อปเจริญและพักอาศัยอยู่บนห้องพักชั้นที่สามของร้านอยู่เพียงลำพัง คืนเกิดเหตุพบว่าก่อนเสียชีวิตราวเที่ยงคืนนางสาวสกุลวดีได้โทรศัพท์ ไปคุยกับเพื่อนพนักงานเรื่องการอบรมของทางร้านโดยไม่มีวี่แววว่าจะถูกฆ่า ต่อมาในช่วงเช้าพนักงานที่เข้ามาทำงานพบว่านางสาวสกุลวลีไม่ลงมาเปิดร้านตามปกติ โทรศัพท์ขึ้นไปก็ไม่ยอมรับสาย จึงตัดสินใจเรียกช่างมางัดประตูเข้าร้าน เมื่อขึ้นไปบนห้องของนางสาวสกุลวดีก็พบว่าห้องถูกล็อกจากด้านในจึงช่วยกันงัด ประตูเข้าไปและพบว่านางสาวสกุลวดีนอนเสียชีวิตดังกล่าว
จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการข่มขืนทั้งที่ผู้ตายเป็นหญิงสาวหน้าตาดี แต่พบว่าสร้อยคอทอคำหนักหนึ่งสลึงหายไปจากตัวผู้ตาย รวมทั้งเงินในกล่องบริจาคด้านล่างของ ร้านที่หายไปประมาณ 500 บาท ทำให้เชื่อว่าคนร้ายจะประสงค์ต่อทรัพย์เพียงอย่างเดียว โดยคนร้ายรายนี้ได้งัดแงะเข้าอาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดกันก่อนจะเดินไปตามระเบียงที่เชื่อมต่อถึงกันเข้างัดแงะเข้าไปในร้านท็อปเจริญ แต่อาจไปพบกับนางสาวสกุลวลีที่ยังไม่นอนจึงเกิดการต่อสู้กัน ซึ่งคนร้ายได้ใช้ของแข็งบางอย่างทุบศรีษะนางสาวสกุลวลีจนเสียชีวิตก่อนฉกทรัพย์สินหลบหนีไปทางเดิม
สำหรับคนร้ายเชื่อว่าอาจเป็นคนรู้จักเนื่องจากรู้เส้นทางเข้าออกเป็นอย่างดีซึ่งได้ตรวจสอบประวัติพนักงานของร้านทุกคนและตรวจสอบพนักงานของร้านจำหน่ายจักรยานยนต์ที่อยู่ติดกันซึ่งออกจากงานไปก่อนหน้านี้ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ พร้อมจะรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้มาทุกอย่างเพื่อหาตัวผู้กระทำ ความผิดมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้อาคารพาณิชย์ติดกันร้านแว่นท็อปเจริญก่อนหน้านี้เคยถูกงัดแงะขโมยทรัพย์สินมาแล้วถึง 4 ครั้ง ซึ่งคนร้ายอาจเป็นคนคนเดียวกัน







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน