กรุงเทพ สยองหนุ่มซิ่งชนรถพ่วงสมองกระจายตายอนาถ

เวลา 02.00 น.ร.ต.ท.ปัญญาวัฒน์ คำศรี ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งชนข้างรถพวงที่บริเวณทางแยกเข้าสะพานตะกาด ถนนสุขุมวิท ตรงข้ามโรงเรียนสมุทรปราการ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นโซนิค สีดำแดง ทะเบียน บจม-363 กทม. ล้มคว่ำอยู่กลางถนนในสภาพด้านหน้าพังยับเยิน ห่างจากรถจักรยานยนต์ประมาณ 10 เมตรได้พบร่างของชายไม่ทราบชื่อและนามสกุล อายุประมาณ 20-25 ปี สวมเสื้อยึดแขนสั้นสีแดง สวมใส่กางเกงยีนส์สีดำขายาว ใส่รองเท้าผ้าใบสีดำหุ้มส้น นอนหงายท้องเสียชีวิตอยู่กลางถนน ในสภาพ กะโหลกศีรษะเปิด มันสมองกระจายเกลื่อนพื้นถนนเป็นที่น่าสยดสยองแก่ผู้ที่สัญจรไปมา ตรวจสอบในตัวไม่พบเอกสารแต่อย่างใด
ห่างจากจุดแรกไปประมาณ 50 เมตรได้พบรถพวงสิบแปดล้อหัวลาก ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-8891 จังหวัดสงขลา ที่บรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ขนาดใหญ่ยาวประมาณ 20 เมตรอยู่ด้านท้ายรถห่างพวงทะเบียน 70-9924 จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นของ บริษัทจำกัด เอเชี่ยน อิมปอร์ต - เอ็กซ์ปอร์ต จอดอยู่ริมถนนทางด้านเลนขวา ที่บริเวณบันใดด้านข้างรถช่วงหางพวงได้พบศพ นาย รัฐพล พึ่งเขื่อนขันธ์ อายุ 19 ปีขาข้างซ้ายเกี่ยวกับราวบันได ลำตัวและศีรษะมีบาดแผลฟาดเข้ากับราวบันไดเหล็กข้างรถอย่างแรงและถูกลากมาตั้งแต่จุดที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร จนศีรษะและแผ่นหลังเป็นแผลเปิดขนาดใหญ่เสียชีวิตคาที่เช่นกัน ส่วนโชว์เฟอร์พ่วงสิบแปดล้อยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
สอบสวนทราบว่าโชว์รถพ่วง 18 ล้อชื่อนายวุธ บริศุทธิ์ จ.สงขลา ให้การว่าในขณะที่ตนขับรถกำลังจะไปรับสินค้าภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู พอวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุได้พบเห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวที่นั่งซ้อน 2 มาได้ขับหลบหนีอาสาสมัครช่วยเหลือเจ้าพนักงานตู้ยามแพรกษา ที่ไล่กวดออกมาจนถึงหน้าถนนซึ่งเป็นทางแยก แทนที่ผู้ตายจะขับรถเลี้ยวออกถนนสุขุมวิท กลับวิ่งย้อนศรออกมาด้วยความเร็ว พุ่งตรงเข้ามาชนเข้ากับราวบันไดด้านท้ายช่วงหางพวงเข้าอย่างแรงเสียงดังสนั่น ตนจึงได้เบรกรถและลงมาดูได้พบว่าชายทั้งสองคนเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ในขณะที่ผู้ตายทั้งสองขับรถจักรยานยนต์หลบหนีการตรวจค้นของอาสาสมัครช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ที่กำลังตระเวนตรวจพื้นที่รับผิดชอบอยู่ โดยขับหลบหนีออกมาด้วยความเร็ว มาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางแยกแทนที่ผู้ตายจะเลี้ยวแต่ด้วยความเร็วของรถทำให้เลี้ยวไม่ทันได้พุ่งตรงออกมาชนรถพวงคันดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป