จ.สมุทรปราการ หนุ่มโหดข่มขืนแทงสาว รร.ดังดับอนาถ

ฆ่าโหดแทงกว่า 30 แผลสาว ม.ปลายดับคาห้อง

       เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 พันตำรวจโท วิภพ วราโพธิ์ สารวัตรเวร สภ.บางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปิยะมินทร์ ว่ามีหญิงสาวถูกแทงด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสมาเข้ารักษาที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตก่อนที่จะเดินทางมาถึง หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พันตำรวจโท ภาสกร มังกรแก้ว สารวัตรสืบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาล

       บนเตียงคนไข้ภายในห้องฉุกเฉินได้พบร่างของ นางสาว จิตราวดี (ของสงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัทยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตประเวศ เสียชีวิตในสภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว ใส่กางเกงขาสั้นสีชมพู แต่ไม่สวมใส่ชุดชั้นใน นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงในสภาพเลือดท่วมตัว ตามลำตัวมีบาดแผลหลายสิบแผลเป็นบาดแผลกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร กลางหน้าอก 8 แผล ด้านหลัง 17 แผล ที่แขนทั้ง 2 ข้างอีก 3 แผล จึงประสานแพทย์โรงพยาบาลบางพลีรวมตรวจสอบ ก่อนมอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชั้นสูตรที่สถาบันนิติเวช จากการสอบสวนทราบว่าเหตุเกิดห้องเช่า 3 ชั้นห้องที่ 3 ด้านในสุด เลขที่ 12 / 86 หมู่ 14 ซอยเปรมฤทัย ล๊อก 14 / 1 แยกที่ 7 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นอาคารแบ่งเป็นห้องเช่าสูง 3 ชั้น ซึ่งมีคนงานของโรงงานรีไซร์ขวดเบียร์เก่าและเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่าพักอาศัยอยู่เกือบทั้งหมด

       จากการสอบสวนนาย บุญมา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี พ่อของผู้ตาย ซึ่งทำงานเป็นคนขับรถของโรงงานรีไซร์เคิลขวดเบียร์เก่า ใกล้ห้องพักที่เกิดเหตุ ได้ให้การว่า ในช่วงที่เกิดเหตุตนได้ขับรถบรรทุก 10 ล้อนำขวดเปล่าที่รีไซร์เคิลแล้วไปส่งที่โรงงานผลิตเบียร์ยี่ห้อหนึ่ง ได้รับแจ้งจาก นาง คนึงสุข (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่าลูกสาวถูกคนร้ายแทงเสียชีวิต ที่ห้องพัก ตนจึงรีบขับรถกลับมา และจากการสอบถาม นาง คนึงสุข แม่ของผู้ตายได้เล่าว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นตนได้ออกไปซื้อกับข้าวที่ตลาดใกล้ที่พัก โดยปล่อยให้ผู้ตายที่ห้องพักเพียงคนเดียว ส่วนลูกชายคนเล็กลงมาวิ่งเล่นอยู่ที่ข้างอาคาร พักใหญ่ตนได้กลับมาถึงห้องพัก ได้พบว่าประตูห้องล๊อกกุญแจลูกบิดอยู่ เคาะเรียกอยู่นานแต่ก็ไม่มีเสียงตอบ ตนจึงได้ลงมาขอกุญแจสำรองจากเจ้าของตึกและเดินไปตามลูกชายคนเล็กที่เล่นอยู่ข้างอาคารและกลับขึ้นไปไขประตูเปิดประตูห้อง ถึงกลับช๊อค เมื่อพบร่างของลูกสาวนอนจมกองเลือดฟุบอยู่ที่หน้าประตู ด้วยความตกใจตนจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านช่วยกันนำส่งที่โรงพยาบาลปิยะมินทร์ แต่เสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ได้พบว่าภายในห้องมีเลือดสาดกระเซ็นต์แดงฉานเต็มห้อง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าเก็บหลักฐานในห้องที่เกิดเหตุ

       จากการสอบถาม นางปรานี กมลคร อายุ 32 ปี ซึ่งมีห้องพักอยู่ชั้นล่าง ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนกำลังเดินเล่นอยู่หน้าห้องพัก ได้ยินเสียงร้องของหญิงสาวเสียงดังลั่นคำว่า “ พอแล้ว-ไม่เอาแล้ว พร้อมด้วยเสียงกรีดออกมาด้วยความเจ็บปวด ” และปิดท้ายคำว่า “ ช่วยด้วย ” และเสียงก็เงียบหายไปซึ่งตนและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงก็ได้ยินเสียงร้องกันทุกคนและได้มองขึ้นไปยังห้องที่เสียงร้องดังออกมา แต่ก็เห็นประตูปิดตามปกติ จึงไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั้งแม่ของผู้ตายกลับมาถึงห้องจึงรู้ว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นภายในห้องดังกล่าว

       เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าคนร้ายน่าจะอยู่ใกล้ห้องที่เกิดเหตุและแอบปีนเข้าไปทางด้านหลังห้องซึ่งอยู่ติดกันเพื่อหวังจะข่มขืน แต่ผู้ตายขัดขืนคนร้ายจึงได้ใช้มีดปลายแหลมที่พกติดตัวมากระหน่ำแทงผู้ตายจนเสียชีวิตก่อนที่จะปีนหลังห้องหลบหนีไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้นำตัวคนงานต่างด้าวชาวพม่า ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงงานรีไซร์เคิลขวดเบียร์เก่า ที่พักอาศัยอยู่ห้องติดกันจำนวน 4 คนมาทำการสอบสวน แต่ทั้งหมดให้การปฎิเสธ จึงได้ส่งตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการทำการตรวจรอยคราบเลือดตามลำตัวซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 วันถึงจะทราบผล ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชขุดสืบสวนได้กระจายกำลังออกสืบสวนหาข่าวเพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป