ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




จ.ตรัง ลุกวอดไหม้เฒ่าไฟครอกย่างดับสยองคาเตียงนอน

 จ.ตรัง ลุกวอดไหม้เฒ่าไฟครอกย่างดับสยองคาเตียงนอน

พระเพลิงพิโรธ เผาวอด”ห้างชวนดี”กลางเมืองตรัง สลด!! เฒ่าวัย 74 ปี หนีหลานไปนอนชั้น 3 ถูกไฟครอกย่างดับสยองคาเตียงนอน ส่วนผู้หญิง เด็กเล็ก 5 คน หนีรอดมาได้ เผยทุกคนเข้านอนตอน 3 ทุ่ม เคราะห์ดีลูกสาวอีกคนตื่นเข้าห้องน้ำกลางดึก เห็นเหตุการณ์ตะโกนเรียกหนีตายจ้าละหวั่น จึงรอดหวุดหวิด คาดไฟฟ้าลัดวงจร ความเสียหายยังประเมินไม่ได้

      เมื่อเวลา 23.10 น.วันที่ 23 ก.พ.ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้และมีคนติดอยู่ในห้างชวนดี เลขที่ 92 ถ.หลังตลาด ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานไปยังรถดับเพลิงเทศบาลนครตรัง

      ทั้งนี้เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ตึกแถว 4 ชั้น 5 คูหา โดยบ้านที่เกิดเหตุอยู่หลังที่ 5 มีคนติดอยู่ในบ้านเป็นเด็กเล็ก หญิงชราและผู้หญิง รวม 5 คน ต่างหนีตายออกมาจากข้างใน ปลดประตูเหล็กดัดออกมายืนรออยู่ที่ริมระเบียงชั้น 2 เพื่อรอให้คนมาช่วยเหลือ โดยมีเพื่อนบ้านข้างเคียงช่วยกันโทรศัพท์แจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้นำอุปกรณ์มาช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างบน ผ่านไป 5 นาทีเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำรถตู้มาจอด เพื่อให้ทั้งหมดกระโดดลงมา แต่เนื่องจากมีความสูงถึง 5 เมตร ไม่สามารถลงมาได้

         โดยระหว่างนี้ทั้งเจ้าหน้าที่และเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างล่างต่างช่วยกันปลอบใจผู้ที่ติดอยู่ข้างบนไม่ให้ตกใจกลัว ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจกลัวและกลุ่มควันดำหนาทึบที่พวยพุ่งออกมาริมระเบียง ชั้น 2 กระทั่งผ่านไป 5 นาที เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครตรัง ได้มาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งนำบันไดมาให้ทั้งหมดปีนลงมาได้อย่างปลอดภัย ในขณะเดียวกันยังทราบว่า มีชายชราซึ่งขาเจ็บเดินไม่ค่อยแข็งแรง ติดอยู่บนชั้น 3 อีก 1 คน ทราบชื่อ นายหยงบู เก้าเอี้ยน อายุ 74 ปี เจ้าหน้าที่พยายามปีนขึ้นไปเพื่อช่วยเหลือ

       แต่ไม่สามารถปีนขึ้นไปได้ เพราะแต่ละชั้นติดเหล็กดัดหมด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างล่างได้ใช้เหล็กตัดถ่างประตูเหล็กที่ใส่กุญแจด้านล่าง ปรากฏว่าระหว่างนั้นได้เกิดประกายไฟประทุพร้อมกับมีเปลวเพลิงโหมลุกลามไหม้สิ่งของที่ทางห้างนำมาจำหน่าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัสดุไวไฟ อาทิ เช่น รองเท้ายาง เสื้อกันฝน ประทัด พลุ และวัสดุพลาสติคอื่นที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลามอย่างรวดเร็ว

        ต่อมานายชาลี กางอิ่ม นายกเทศมนตรีนครตรัง ได้รุดมาที่เกิดเหตุพร้อมสั่งระดมรถดับเพลิงจากเทศบาลนครตรัง อ.กันตัง อ.ย่านตาขาว และใกล้เคียง กว่า 10 คัน เพื่อนำรถน้ำมาฉีดสกัด ไม่ให้ไฟลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง ผ่านไปประมาณ 1 ชม.เศษ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แค่บางส่วน แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง จึงระดมฉีดน้ำกันอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันได้ประสานขอรถกระเช้าไฟฟ้าจาก กฟภ.จ.ตรัง เพื่อขึ้นไปช่วยเหลือนายหยงบู

      แต่เมื่อขึ้นไปแล้ว ก็พบว่าติดเหล็กดัดไม่สามารถเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างนานกว่า 5 นาที หลังจากนั้นได้ใช้ค้อนปอนด์ทุบทำลายกระจก ฝาผนัง และประตู โดยใช้เวลานานกว่า 30 นาที เพื่อเข้าไปช่วยเหลือนายหยงบู และพบว่าถูกไฟคลอกจนไหม้เกรียมเป็นตอตะโกอยู่บนเตียงนอนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำร่างห่อผ้าขาวใส่รถกระเช้าไฟฟ้าลงไปขันสูตรพลิกศพที่ รพ.ตรัง กระทั่งผ่านไปกว่า 2 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในความสงบไว้ได้ ประมาณ 02.00 น.วันที่24 ก.พ.ท่ามกลางไทยมุงกว่า 200 คน แห่กันมามุงดูเหตุการณ์

      จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่อาศัยรวมกัน 6 คน โดยก่อนเกิดเหตุทั้งหมดได้ปิดไฟเข้านอนตั้งแต่เวลา 21.00 น.กระทั่งเวลา 22.50 น.ลูกสาวของนายหยงบูได้ตื่นขึ้นมาเพื่อเข้าห้องน้ำ และเมื่อเปิดประตูห้องออกมา ก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้พร้อมกับมีไอความร้อนและเห็นประกายไฟ จึงได้ตะโกนร้องเรียกให้แม่และคนอื่นที่นอนอยู่บนชั้น 2 หนี และได้ร้องเรียกนายหยงบูที่หนีเสียงรบกวนของหลานคนเล็กขึ้นไปนอนบนชั้น 3 แต่ก็ไม่มีเสียงขานรับจากข้างใน จึงเข้าใจว่าคงหลับสนิท ทุกคนจึงตัดสินหนีเอาตัวรอด โดยเปิดเหล็กดัดออกมายืนรอขอความช่วยเหลือที่ริมระเบียงชั้น 2 กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือจนปลอดภัย ส่วนนายหยงบูที่ติดอยู่ชั้นบนคงจะสำลักควันไฟ เพราะขาดอากาศหายใจและถูกไฟครอกเสียชีวิตดังกล่าว

       เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ว่า น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามจะได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่วิทยาการพิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อจะได้ทราบสาเหตุที่แท้จริง ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะต้องรอการตรวจสอบในภายหลัง







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน