ทางปฏิบัติ
ผ่านเลยล่วงเข้าสู่ศักราชใหม่ จวบจนถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนา “มาฆบูชา” วันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข์” แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก จึงนับเป็นโอกาสดีอีกวันหนึ่งที่พุทธศาสนิก ชนทุกคนจะได้เสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตด้วยการเข้าวัด ทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา เจริญสมาธิภาวนา จนถึงพลบค่ำพร้อมใจกันไปเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ
การทำบุญ หรือการได้ใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนาไม่เพียงช่วยทำให้ผู้ปฏิบัติมีจิตใจเบิกบานแจ่มใส หากแต่ยังช่วยให้ชีวิตมีหลักยึดเหนี่ยว ตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรม มีสติในการแก้ไขปัญหาฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้อย่างรอบคอบ แสงแห่งความสุขจากพระธรรมเป็นดังแสงสว่างช่วยนำทางชีวิตให้พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เทศนาให้ข้อคิดเกี่ยวกับธรรมะถึงพุทธศาสนิกชนทุกคนเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตว่า การทำบุญสร้างกุศลทำสิ่งดีงามเหล่านี้ล้วนนำความเป็นสิริมงคลมาสู่ชีวิต
หลักธรรมที่เป็นแสงนำทางชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงเทศนาไว้อาจแบ่งได้เป็นหลักธรรมที่เป็นแสงนำชีวิตระดับชาวบ้านทั่วไปที่ยังมีความมุ่งหวังใช้ชีวิตแบบฆราวาส หรือเรียกว่า ฆราวาสธรรม ซึ่งการดำเนินชีวิตเช่นนี้แล้วจะมีแนวทางอย่างไรที่ทำให้ชีวิตมีสุข
แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับข้อเท็จจริงของสัจจะที่ว่าไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ได้นั่นก็คือ ชีวิตเป็นทุกข์ ต้องยอมรับกติกาข้อเท็จจริงในสิ่งนี้ซึ่งเป็นไปตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ ตามกรรม และโดยมุมกว้างสัจจะอันแท้จริงของชีวิตนั้นวนเวียนไปตามหลักไตรลักษณ์ จะทำอย่างไรที่จะทำให้ชีวิตมีความเปลี่ยนแปลงไปตามกฎธรรมชาติอยู่กับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุข หลักธรรมนี่แหละที่จะนำทางชีวิตฆราวาสให้มีความสุข ตั้งอยู่บนพื้นฐานความทุกข์ตามธรรมชาติได้
ส่วนผู้ที่ไม่มีความต้องการใช้ชีวิตแบบฆราวาส จะใช้ชีวิตอย่างพระนั้นก็มีหลักธรรมเป็นแนวทางเช่นเดียวกัน อย่างเรื่องของทรัพย์ สุขจากการมีทรัพย์ ต้องมีความสมดุลมีสติปัญญาในการใช้ การแสวงหาให้พอเพียงกับทรัพย์ที่หามาได้จึงจะไม่เกิดเป็นทุกข์
สุขจากการมีทรัพย์ในเรื่องนี้ต้องพิจารณา ทรัพย์จะได้มาด้วยอะไรก็ได้มาด้วยเพราะความขยันหมั่นเพียร และเมื่อมีแล้วก็ต้องรู้จักใช้และจำเป็นต้องรู้จักเก็บออม รักษา ใช้จ่ายทรัพย์อย่างถูกต้อง
“ทรัพย์ที่เราได้มาต้องรู้จักเก็บอดออมเก็บไว้เป็นทุน ทำความรู้สึกไว้ในใจว่าเหมือนไม่มีทรัพย์อยู่แต่แท้จริงมี ส่วนหนึ่งอาจนำมาจับจ่ายใช้สอยให้ชีวิตครอบครัวดำเนินไปได้ ไม่ใช่ตระหนี่เก็บอย่างเดียวจนคนในครอบครัว บุตร ภรรยาไม่สามารถนำมาใช้จ่ายได้
ในที่นี้จึงหมายถึง ให้รู้จักการเก็บออมรักษา รู้จักนำไปใช้จ่าย ส่วนที่เก็บไว้เป็นทุนจึงมีคำเปรียบเหมือนกับการเก็บใส่ไว้ในปากอสรพิษ ที่กล่าวเช่นนี้ก็เพื่อจะได้นำมาใช้ในคราวที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เพราะความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของชีวิตที่เรียกว่าไตรลักษณ์ก็จะได้นำมาผ่อนปรนความทุกข์ที่เกิดขึ้น”
อย่างคราวมหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น ความไม่เที่ยงไม่ใช่จะมีเพียงเฉพาะชีวิตเรา ธรรมชาติก็มีความไม่เที่ยง ดังนั้นจึงต้องจัดสรรแบ่งส่วนการใช้ เก็บออมให้มีความรู้สึกเหมือนกับอยู่ในปากงูพิษ เพราะถ้าจะหยิบก็กลัวว่างูจะฉกจึงสามารถนำมาผ่อนปรนความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดในอนาคตข้างหน้าซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีเกิดขึ้นก็ตาม
“ธรรมะก็เป็นเช่นนี้ในระดับของชาวบ้าน ถ้าปฏิบัติเคร่งครัดได้ชีวิตเราก็ไม่ได้ตั้งอยู่ในความประมาท เมื่อชีวิตตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ธรรมะก็จะเป็นแสงส่องนำทางเราไป แก้ปลดปล่อยทุกข์ทีละเปลาะที่เกิดขึ้นกับเราได้จากความไม่เที่ยงแท้ของชีวิต สิ่งนี้คือหลักธรรมอย่างหนึ่งที่พระพุทธเจ้าท่านมองไว้โดยสอนไว้เป็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน”
ส่วนการฝึกฝนปฏิบัติ ครอบครัวมีส่วนสำคัญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสกล่าวเพิ่มอีกว่า อาตมาเชื่อว่าการปลูกฝังจากครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง พ่อ แม่สามารถจะเป็นแบบอย่างให้แก่ลูกได้และด้วยพื้นฐานที่พ่อแม่อยากให้ลูกเป็นคนดีไม่เกเรสร้างปัญหาให้กับสังคม อยากให้ลูกมีความร่มเย็นเป็นสุข แคล้วคลาดปลอดภัย เจริญเติบโตขึ้นตามลำดับ ฯลฯ
การย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นกลับคืนสู่วิถีวัฒนธรรมเดิมของเราซึ่งยึดมั่นในพุทธศาสนา ความประสงค์จะให้ลูกเป็นคนดีสามารถนำแสงสว่างแห่งธรรมะกลับมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ซึ่งหลักธรรมง่าย ๆ ที่พ่อแม่ ผู้ปกครองสามารถปลูกฝังอบรมได้คือ ความกตัญญู
“ความกตัญญูเป็นหลักธรรมอันเป็นมงคล เป็นเส้นทางที่นำไปสู่แสงสว่าง หลักธรรมพาเราก้าวข้ามวิกฤติและปัญหาความทุกข์ยากต่าง ๆ ได้ ซึ่งความกตัญญูมิใช่เป็นเพียงการมอบสิ่งของ แต่เป็นจิตสำนึกจากจิตใจที่เราแสดงออกผ่านถ้อยคำ การแสดงออก หรือวัตถุ แต่อย่างไรแล้วจะต้องถ่ายเทออกมาจากจิตใจถึงความตั้งมั่นในการดูแลตอบแทนท่าน”
ปีพุทธศักราชใหม่ที่กำลังดำเนิน หลักธรรมคำสอนที่เป็นเข็มทิศแนวทางเป็นแสงสว่างนำทางที่เริ่มจากครอบครัวซึ่งมีความสำคัญในการสร้างเสริมปลูกฝัง พระวิจิตรธรรมาภรณ์กล่าวแนะนำอีกว่า สังคมไทยเรามีวิถีชีวิตที่เป็นพื้นฐานงดงาม การสวดมนต์ร่วมกันมีพ่อแม่เป็นผู้แนะนำสวดมนต์ไปพร้อมกัน สิ่งนี้ถือเป็นการปลูกฝังเป็นการเริ่มต้นที่มีความหมาย เบื้องต้นก่อนนอนอาจชวนกันสวดมนต์เมื่อเติบโตขึ้นก็เกิดการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้น
การปลูกฝังหล่อหลอมให้เด็กเข้ามาใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนาเช่นนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีถือได้ว่าเป็นฐานให้กับชีวิตของพวกเขา เป็นการน้อมนำให้เด็กได้เข้าสู่เส้นทางศาสนา ซึ่งพื้นฐานที่เรียบง่ายเหล่านี้จะเป็นส่วนหล่อหลอมจิตใจให้อ่อนโยนงดงาม เป็นการเติมเชื้อความดีงามให้เกิดขึ้นในจิตใจของเขานับแต่วัยเยาว์และจะค่อย ๆ เติบโตขึ้นเป็นต้นกล้าที่แข็งแกร่งโดยมีหลักธรรมเป็นแสงสว่างนำทาง
ในวาระก้าวสู่ปีใหม่ และวันสำคัญทางพุทธศาสนา “มาฆบูชา” ที่เวียนมาบรรจบ การตั้งมั่นทำความดีสร้างบุญกุศลน้อมนำหลักธรรมคำสอนเป็นแนวทางดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท อีกทั้งมีความกตัญญู สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความมงคลที่จะช่วยนำพาชีวิตของเราให้เจริญก้าวหน้า พบเจอแต่ความสุขความเจริญโดยแท้.
มงคลการสวดมนต์
การสวดมนต์ นอกเหนือจากเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาพระพุทธศาสนาแล้ว อีกด้านหนึ่งยังเป็นการเจริญสมาธิภาวนา การสวดมนต์ช่วยทำให้จิตใจอ่อนโยนพร้อมที่จะรับคำแนะนำ ทำให้เกิดปัญญา นอกจากนี้การสวดมนต์เป็นประจำจะเกิดความสุขสงบทางใจ การสวดมนต์ยังเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิตปัจจุบันให้มีทัศนคติไปในทางที่ดี จิตไม่ฟุ้งซ่าน หม่นหมอง มีความอดทนมุ่งมั่น มีความเพียรพยายาม ไม่ย่อท้อ รู้จักควบคุมตนเองและมีความละเอียดรอบคอบ อีกทั้งเกิดความละอายที่จะกระทำในสิ่งที่ไม่ดี รู้จักประมาณตน มีอารมณ์เบิกบาน