ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




ตะลึง!.เพื่อนซี้..ทักษิณ สมคบทนายดูไบโกงเงิน

 

ตะลึง!.เพื่อนซี้..ทักษิณ สมคบทนายดูไบโกงเงิน

 

 

 
 
ระบุศาลอาญาแห่งรัฐดูไบ พิพากษาจำคุก คาเลด อัล มูฮาอิรี ชื่อย่อๆ ว่า "เคเอ็ม" วัย 45 ปีชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตัวแทนกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการติดต่อธุรกิจกับสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี ในอังกฤษ ได้ถูกศาลอาญาในนครดูไบ ตัดสินจำคุกเป็นเวลา 3 ปี ในคดียักยอกเงินอย่างน้อย 15 ล้านยูโร หรือราว 580 ล้านบาท จากบัญชีธนาคารในมอนเตเนโกรของ พ.ต.ท.ทักษิณ
   "เคเอ็ม" เคยทำงานร่วมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต่ำกว่า 3 ปี ตามข่าวระบุว่า มีการยักยอกเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ มาตั้งแต่เดือน ก.ย.-ต.ค. 2552 ผ่านบัญชีเงินฝากที่เปิดไว้ในมอนเตเนโกร  นอกจากนี้ ยังพบว่าทนายความรายนี้เคยปลอมแปลงเอกสารมาแล้วหลายกรณี
  ยิ่งกว่านั้น ได้นำเงินส่วนหนึ่งที่ยักยอกมาราวๆ 339 ล้านบาท ไปซื้อบ้านพักตากอากาศสุดหรู แถบเอมิเรตส์ ฮิลล์ หรือที่เรียกกันว่า "เบเวอร์ลี่ ฮิลล์" แห่งดูไบ ย่านบ้านพักสุดหรูของมหาเศรษฐี
 การเข้ามาสัมผัสและใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
 
แน่นอนอยู่แล้วว่า การที่จะรู้จักโดยไม่มีการชักนำ คงเป็นไปไม่ได้ ว่ากันว่า งานนี้ "สหายรักหักเหลี่ยม" พ.ต.ท.ทักษิณ นั่นเอง ที่เป็นคนชักใยและชักนำให้รู้จัก จน "เคเอ็ม" กลายเป็น "ทนายคู่ใจ" อยู่หลายปี ทำหน้าที่ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างในการซื้อๆ ขายๆ ไว้ใจกันถึงขั้น ฝากบริหารจัดการบัญชีรายรับรายจ่ายเบ็ดเสร็จ ซึ่งถือว่า "ไว้ใจสุดๆ"
 สำหรับ "สหายรัก" พ.ต.ท.ทักษิณ คนนี้ ก่อนหน้านี้ ก็ไปไหนมาไหน "เสมือนเงาตามตัว" หากเอ่ยชื่อขึ้นมา คงไม่มีใคร ไม่รู้จัก เพราะเขาโด่งดังในฐานะอดีต "เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์" ผู้เลื่องชื่อ หลังเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ผ่านไปได้ 3 ปี ก็ถูกฟ้อง กระทั่งถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายในปี 2545 อีก 2 ปีต่อมา ศาลล้มละลายกลาง ได้ปลดชื่อออกจากการเป็นบุคคลล้มละลาย
 หลังจากนั้น เขาห่างหายไปจากวงการพักใหญ่ ก่อนจะกลับมาพร้อมกับบทบาทการเป็น "นายหน้า" ติดต่อและเจรจาซื้อขายธุรกิจในแบบที่ถนัดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกได้ว่าเป็น "เพื่อนคู่คิดในเรื่องธุรกิจ" คนสำคัญ ที่เคียงบ่าเคียงไหล่อยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนทำธุรกิจในเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศอังกฤษ
 กระทั่ง "สหายรัก"คนนี้ได้รู้จักกับ "เคเอ็ม" จนทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนซี้ในที่สุด จะว่าไปแล้ว ในสมัยที่ "สหายรัก" เคยพักพิงอยู่กับ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ก็ได้อาศัย "คอนเนคชั่น" เป็นตัวช่วย กระทั่งยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องระหกระเหินหนีไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง "สหายรัก" เลยชักใย แนะนำให้รู้จักกับ "เคเอ็ม" จนกลายมาเป็นทนายความคู่ใจร่วมทำธุรกิจกันมาหลายปี
 ข่าววงในบอกด้วยว่า "สหายรัก" มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น อาจจะถูกฟ้องด้วย เวลานี้อยู่ในช่วงหนีกระเจิง ไม่กล้าเข้าดูไบ เพราะมีความผิดที่ไม่ต่างกับ "เคเอ็ม"
 ที่สำคัญ เงินที่หายไปจากบัญชี เรียกว่าชุบมือเปิบ ไม่ใช่แค่ตัวเลขแค่ 580 ล้านบาท ว่ากันว่า สูงถึง 3,000 ล้านบาทด้วยซ้ำ เพราะการยักยอกเงินจากบัญชี ไม่ได้มีแค่ครั้งเดียว แต่ทำมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งนายห้างดูไบ สุดจะทน ถึงขั้นต้องยื่นฟ้องร้องเสียเอง เชื่อกันว่า ยังมีเงินที่ยักย้ายถ่ายเทออกไปไม่น้อย บางช่วงมีการนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็งกำไร พอขายออกไป ก็หายทั้งเงินต้นและกำไร
   เรื่องอย่างนี้ ก็มองได้ว่า เมื่อสัมผัสกับเงินมากๆ อาการอยากได้ ก็เกิดขึ้น เขาเรียกว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์..ก็เอาด้วยกล เลยสมคบกันโกงเสียเลย ในเมื่อเจ้าของเงินก็ดันฝาก "ปลาย่างไว้กับแมว" เองนี่นา
  สิ่งที่เกิดจะเป็นอุทาหรณ์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้หรือไม่ ก็น่าคิด ตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นศูนย์รวมอำนาจ ใครก็อยากเข้าใกล้ เป้าหมายทุกคนที่เข้าใกล้ คือ ความอยากได้ เพื่อประโยชน์ส่วนตนทั้งสิ้น







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน