กะเม็ง ล้างพิษตกค้างจากไต
ผู้ที่เริ่มเป็นโรคไต ซึ่งถ้าเป็นไม่นาน ต้น “กะเม็ง” ทั้ง 2 ชนิด คือ กะเม็งตัวผู้ กับ กะเม็งตัวเมีย แก้ได้ โดยเอาทั้งต้นแบบแห้งชนิดใดชนิดหนึ่ง จำนวน 1 กำมือ ต้มกับน้ำจนเดือด ดื่มครั้งละ 1 แก้ว เช้า กลางวัน เย็น หรือต้มดื่มแทนน้ำทั้งวันก็ได้ จะช่วยล้างพิษหรือสารตกค้างจากไตจนหมด ทำให้ไตสมบูรณ์ขึ้น ร่างกายก็แข็งแรงตามไปด้วย ไม่มีอาการปวดเมื่อย ผิวกายไม่ตกกระ และยังช่วยชะลอความแก่เพราะไตดีขึ้นนั่นเอง ผิวพรรณสดใสอีกด้วย
กะเม็งตัวผู้ เป็นหญ้ากลีบดอกสีเหลือง อยู่ในวงศ์ COMPOSITAE ทั้งต้นสดหรือแห้ง ต้มหรือทำผงดื่มกินแก้ไอ แก้อาเจียนเป็นเลือด บำรุงโลหิต คนจีนเรียกอึ้งปั้วกีเชา คนไทยเรียกกะเม็งดอกเหลือง ส่วนกะเม็งตัวเมีย หรือ ECLIPTA PROSTRATA LINN. อยู่ในวงศ์ ASTERACEAE เป็นไม้ล้มลุก ต้นสูงกว่าครึ่งเมตร กลีบดอกเป็นสีขาว ใบ รากปรุงเป็นยาถ่าย ทำให้อาเจียน รากแก้เป็นลมหน้ามืดจากการคลอดบุตร แก้ท้องเฟ้อ บำรุงตับ ม้าม บำรุงโลหิต ทั้งต้นแก้มะเร็ง (อาการแผลเรื้อรังเน่าลุกลาม รักษายาก) แก้หืด แก้หลอดลมอักเสบ แก้จุกเสียด แก้กลากเกลื้อน เป็นยาฝาดสมาน น้ำคั้นจากต้นใช้รักษาอาการดีซ่านดีมาก
เตยหอม ขับหินปูนตามข้อได้
ตำรายาแผนไทยระบุว่า “เตยหอม” นอกจากมีประโยชน์ทางอาหาร และเป็นสมันไพรรักษาได้หลายอย่างแล้ว ถ้าเอาใบสด จำนวน 4 ใบ พร้อมใบสดรางจืด 8 ใบ ต้มกับน้ำ 1 ลิตร จนเดือดและเคี่ยว 15 นาที ดื่มขณะอุ่นครั้งละครึ่งแก้ว เช้า กลางวัน เย็น จะช่วยขับหินปูนตามข้อต่อให้ออกได้ และทำให้ไม่ปวดข้อเดินได้สะดวกอีกด้วย ต้มดื่มติดต่อกัน 3 วัน เว้น 1 อาทิตกย์ต้มดื่มต่อ และสามารถต้มดื่มได้เรื่อย ๆ ไม่มีอันตรายอะไร
เตยหอม หรือ PANDANUS ODORUS อยู่ในวงศ์ PANDANACEAE นิยมปลูกตามบ้านและมีใบจำหน่ายตามตลาดสดทั่วไป ประโยชน์ทางยาเฉพาะ ใบมีรสเย็นหอม บำรุงหัวใจให้ชุ่มชื้น โดยในการทำข้าวกระยาคู ซึ่งใช้ข้าวน้ำนมกับนมสด จะต้องใส่ใบเตยหอมด้วย เมื่อรับประทานแล้ว จะทำให้เกิดกำลัง มีจิตใจผ่องใส ต้นและรากใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้กระษัยน้ำ เบาพิการได้ดีมาก
รางจืด หรือ MILLETIA KITYANA อยู่ในวงศ์ PAPILIONEAE เป็นไม้เถาเลื้อย ดอกสีม่วง ประโยชน์ทางยา รางจืด มีรสเย็น ใช้ถอนพิษและยาเบื่อเมา ใช้ปรุงเป็นยาเขียวถอนพิษไข้และพิษทั้งปวง รากและเถากินเป็นยาแก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้พิษร้อนทั้งปวง ซึ่งคนทั่วไปจะรู้จักและคุ้นเคยกับต้นรางจืดเป็นอย่างดี และนิยมปลูกในบริเวณบ้านแพร่หลาย เพื่อใช้ประโยชน์ตามที่กล่าวข้างต้น