นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา สมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า กรณีฝ่ายค้านต้องการให้รัฐบาล ถอดร่างปรองดองออกจากสภานั้น มองว่า เป็นเรื่องของผู้เสนอ และทางวิปรัฐบาล มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวแล้วว่า ต้องการให้ชะลอร่างดังกล่าวออกไป พร้อมระบุว่า เรื่องลักไก่พิจารณาไม่มีอย่างแน่นอน เนื่องจากต้องใช้เวลาหลายเดือนในการดำเนินการ และเชื่อว่าหากค้างไว้ในสภาก็จะไม่มีเป็นปัญหาเกิดขึ้น ดังนั้น ไม่ต้องวิตกกังวลจนเกินเหตุ และส่วนตัวเชื่อว่า ประธานวิปรัฐบาล เชื่อถือได้ และไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดไกลเกินไป

"ผมเชื่อว่า น่าจะเชื่อถือเขาได้ ที่ทาง ประธานวิปรัฐบาล เขาบอกในช่วงนี้ จะไม่มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปรองดอง ผมว่าน่าจะเชื่อเขาได้ แต่อย่าไปวิตกกังวลจนเกิดเหตุ" นายพงศ์เทพ กล่าว

นอกจากนี้ นายพงศ์เทพ ยังเปิดเผยว่า การแก้รัฐธรรมนูญ ยังต้องรอฟังจากคณะทำงาน 11 คน ก่อนว่า แนวทางเป็นอย่างไร พร้อมยืนยัน คณะทำงานของพรรคเพื่อไทย 7 คน ยังประกอบไปด้วย นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา นายวราเทพ รัตนากร สมาชิกพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการผู้อำนวยการพรรค นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย และตนเอง ทั้งนี้ยังมี นายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ส่วนรายชื่อพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ยังต้องรอฟังความชัดเจนก่อน

ชำนิอุบไต๋ยื่นซักฟอกรบ.ย้ำต้องถอนปรองดอง

นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เรื่อง การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากยังเร็วเกินไป และยังต้องรวบรวมข้อมูลก่อน และทางพรรคยังไม่ได้กำหนดว่า ประชุมเรื่องดังกล่าวในช่วงเวลาใด ส่วนแนวโน้มว่าจะยื่นเป็นรายบุคคล หรือเป็นองค์คณะ ก็ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากต้องเตรียมการในเรื่องดังกล่าวก่อนเช่นกัน

"ยังไม่มีแนวโน้มนะครับ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ มันต้องเป็นปัญหาข้อชัดเจน มันไม่ใช่เรื่องของสมัยประชุมที่จะทำ ได้อะไรก็ทำ ต้องรวบรวมข้อมูลก่อน" นายชำนิ กล่าว

นอกจากนี้ นายชำนิ ยังเปิดเผยว่า เรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง และรัฐธรรมนูญ ทางฝ่ายค้านยังยืนยันให้ถอดร่างดังกล่าวออกไป เนื่องจากมองว่าเป็นปัญหาของสภา

'นิยม' ชี้ ถอดปรองดอง อยู่ที่ความเห็นสภา

นายนิยม วรปัญญา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย และ 1 ใน 4 ผู้เสนอร่างปรองดอง เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เรื่องการถอดร่าง พ.ร.บ.ปรองดองนั้น  ต้องเป็นหน้าที่ของสภาว่า มีความจำเป็นต้องถอดหรือไม่  ซึ่งที่ผ่านมาดูจากการเมืองต่างประเทศ หลายประเทศที่มีความขัดแย้ง แล้วพบว่ามีเหตุการณ์บานปลายและสูญเสียชีวิต หากประเทศไทย ไม่ปรองดอง อาจส่งผลกระทบต่อประเทศมากเช่นกัน เพราะตนเองก็ห่วงประเทศ  ส่วนทางสภา จะเลื่อนไปเรื่อย ๆ หรือไม่นั้น ยังไม่มีความแน่นอนในเรื่องนี้ พร้อมยืนยัน  ร่างปรองดอง ไม่ได้ให้ประโยชน์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการคืนเงิน 46,000 ล้านบาท เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นคดีอาญา

"คือในสภาไม่มีความแน่นอนนะครับ เพราะว่าถ้าสมมุติว่า เหตุการณ์มันเปลี่ยนแปลงไป มันก็อาจจะเปลี่ยนไปตามเหตุการณ์" นายนิยม กล่าว

นอกจากนี้ นายนิยม ยังเปิดเผยว่า ร่างปรองดองของบุคคลอื่น ก็ไม่มีใครคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นกัน และไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงอยากให้อยู่ในกระบวนการของศาล เพื่อให้กระบวนดังกล่าวเดินหน้าไปมากกว่า