ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




ไทยติดอันดับโลกลอบนำเข้างาช้างเถื่อน

ไทยติดอันดับโลกลอบนำเข้างาช้างเถื่อน

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2555 เวลา 16:04 น.
 
 
            วันนี้ (11 ธ.ค.) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า  ล่าสุดองค์กรฐานข้อมูลการค้างาช้างและผลิตภัณฑ์จากช้างที่ผิดกฎหมาย ภายใต้องค์กรเครือข่ายควบคุมการค้าสัตว์ป่า ได้เผยแพร่ข้อมูลในที่ประชุมระดับนานาชาติ ว่าประเทศไทยเป็นประเทศอันดับสูงสุดของโลกในเรื่องการเป็นศูนย์กลางการค้าและใช้ผลิตภัณฑ์จากงานช้างที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมีเพียง 2 ประเทศในโลกคือจีนและไทย โดยการจัดอันดับขององค์กรฐานข้อมูลกรค้างาช้างฯ  จะแบ่งกลุ่มประเทศต่างๆ โดยใช้สีเป็นสัญลักษณ์ สีเขียวคือประเทศผู้ส่งออกได้แก่ เคนยา แทนซาเนีย และแอฟริกาใต้  สีน้ำเงินคือประเทศทางผ่านสินค้า ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย ฮ่องกง และฟิลิปปินส์ ส่วนสีแดงคือประเทศที่เป็นศูนย์กลางการค้าและใช้ผลิตภัณฑ์งาช้าง คือไทยและจีน

           นายธีรภัทร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ประเทศไทยได้รับการเตือนและจัดอันดับในลักษณะนี้มา 2 ปีแล้ว และเราก็ได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ แต่ล่าสุดก็ยังมีการจัดอันดับประเทศไทยไว้อีก โดยทางองค์กรฐานข้อมูลการค้างาช้างฯ อ้างว่าใช้ข้อมูลจากสถิติการจับกุม และของกลางที่จับได้ในแต่ละประเทศเป็นตัวชี้วัด ทั้งนี้ประเทศไทยยังถูกมองว่าเป็นแหล่งนำเข้าและแปรรูปผลิตภัณฑ์งาช้างด้วย ซึ่งล่าสุดประเทศไทยสามารถจับกุมการลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมายได้ 53 คดี จำนวนงาช้างของกลาง 1 หมื่นกิโลกรัม ขณะที่จีนจับได้กว่า 2,008 คดี  งาช้างของกลางจำนวน 2.8 หมื่นกิโลกรัม

           รองอธิบดีกรมอุทยานฯ  อย่างไรก็ตามตัวแทนขององค์กรฐานข้อมูลค้างาช้างฯ จะเข้าพบตนในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งตนจะได้สอบถามว่าเหตุใดประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นประเทศศูนย์กลางการค้าและใช้ผลิตภัณฑ์งาช้างฯ  จากข้อเท็จจริงควรจะจัดประเทศไทยไว้ในกลุ่มประเทศทางผ่านเท่านั้น  การที่เราสามารถจับกุมคดีและยึดของกลางงาช้างจากประเทศต้นทางได้เป็นจำนวนมากก็เพราะเราให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหานี้และดำเนินการอย่างจริงจังหลังจากได้รับการแจ้งเตือนมา รวมทั้งประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งในภูมิภาคนี้ จึงทำให้สามารถจับกุมการค้าพืชและสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายได้จำนวนมาก ทั้งนี้หากไม่เร่งแก้ปัญหาองค์กรอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) จะขึ้นบัญชีประเทศไทยเพื่อไม่ให้นานาชาติทำการค้าในเรื่องพืชและสัตว์ที่ถูกกฎหมายกับประเทศไทยซึ่งปีหนึ่งมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท  

           นายธีรภัทร กล่าวต่อว่า การที่ปัญหาการค้างาช้างผิดกฎหมายไม่หมดไปนั้น เพราะความต้องการของประเทศปลายทางที่สำคัญคือประเทศจีน ยังคงมีอยู่เพราะเป็นเรื่องของค่านิยมและความเชื่อ โดยจีนและญี่ปุ่นสามารถซื้อโควตาการนำเข้างาช้างจากประเทศในแอฟริกาได้  แม้ขณะนี้ประเทศในแอฟริกาไม่มีการอนุญาตให้ล่าช้างอย่างถูกกฎหมายแล้วแต่ของกลางก็ยังมีอีกมาก และโควตาการนำเข้าก็ไม่พอกับความต้องการของประเทศปลายทางเหล่านี้ จึงมีการลักลอบล่าช้างเอางาเพื่อส่งออกมาขายยังประเทศปลายทางเหล่านี้อยู่เสมอและใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน

            “ สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาต่อไป เร็วๆ นี้เราจะมีการประสานขอข้อมูลบุคคลที่ถูกจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับการลักลอบค้างาช้างและสัตว์ป่าผิดกฎหมายในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมทั้งประเทศจีน เพื่อเชื่อมโยงขบวนการเหล่านี้ให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็จะพบว่าขบวนการค้าสัตว์ผิดกฎหมายมีความเชื่อมโยงกับยาเสพติดโดยล่าสุดพบว่าขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติเชื่อมโยงกับการค้าเฮโรอีนด้วย” นายธีรภัทร กล่าว.







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน