"อภิสิทธิ์" ออกโรงย้อน"ธาริต"ความจำทำด้วยอะไร
วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2555
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2555 ที่ร้านอาหารลมระเบียงน้ำ อ.ศาลายา จ.นครปฐม พรรคประชาธิปัตย์ จัดเวทีประชาชน เดินหน้าผ่าความจริง โดยมีส.ส.ของพรรค และประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนหนึ่ง โดยไม่มีกลุ่ม นปช. มาชุมนุมขัดขวางแต่อย่างใด จากนั้นเวลา 18.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยว่า แม้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)จะแจ้งข้อกล่าวหาตน กรณีสลายการชุมนุมกลุ่มนปช. ปี 2553 แล้วนั้น ยืนยันว่ายังเป็นสุจริต ไม่ได้เป็นคนขี้ขลาดหนีไปไหน ซึ่งการที่ตนเดินทางไปดีเอสไอ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหานั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไออ่านข้อกล่าวหาให้ทุกตัวอักษร ซึ่งมีการระบุว่ากลุ่มนปช.ชุมนุมปี 2553 เป็นการชุมนุมด้วยความยุติธรรม สงบเรียบร้อย ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ไปสกัดกั้นก็ไม่เกิดเหตุอะไร ซึ่งตนไม่รู้ว่าความจำทำด้วยอะไร เพราะที่ผ่านมาดีเอสไอเป็นผู้รวบรวมพยานหลักฐาน และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เป็นผู้ที่แนะนำตนว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ฟ้องได้
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ข้อกล่าวที่แจ้งกับตนและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตผอ.ศอฉ. คือร่วมกันทำให้ผู้อื่นตายโดยเจตนา ซึ่งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ได้รับทราบ และตนบอกว่าไม่เข้าใจข้อกล่าวหา พร้อมถามเจ้าหน้าที่ว่าการแจ้งข้อหาดังกล่าว แจ้งในฐานะนายอภิสิทธิ์ หรือในฐานะนายกรัฐมนตรี ปี2553 ซึ่งดีเอสไอตอบว่าแจ้งข้อหานายอภิสิทธิ์ ซึ่งสาเหตุที่ไม่แจ้งข้อหาตนในฐานะนายกฯ นั้น เพราะดีเอสไอรู้ว่าหากแจ้งข้อหาในฐานะนายกฯ หรือเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานของรัฐนั้น เป็นอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปรายปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่ควบคุมไม่ได้ อย่างไรก็ตามตนไม่เข้าใจทำไมแจ้งข้อหานายอภิสิทธิ์ แล้วนายอภิสิทธิ์เป็นใครถึงได้ประกาศภาวะฉุกเฉินได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ข้อกล่าวหาที่ 2 มีการแจ้งว่าตนบังอาจกระทำผิด 21 กรรมคือตั้งแต่ ปี 2551-2555 บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ เดือนละ 20,000 บาท ที่ตามกฎหมายระบุว่าการบริจาคเงินกว่า 20,000 บาท ต้องทำเป็นเช็ค เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินได้ ซึ่งพวกตนไม่ได้จ่ายเป็นเงินสด แต่ใช้วิธีทำหนังสือให้สภาทำเช็คหักเงินเดือนส.ส. และบริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์ แต่ดีเอสไอบอกว่าไม่ได้ เพราะกฎหมายเขียนไว้อย่างนี้ แต่การดำเนินการของพวกตนนั้น เพื่อต้องทำพรรคไม่ให้เป็นของนายทุนคนใดคนหนึ่ง เรื่องนี้ตนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะเดียวกันมีคดีที่3 ที่ต้องให้การ เพราะดีเอสไอไล่รังควานคนที่บริจาคเงินน้ำท่วมให้พรรคประชาธิปัตย์ด้วย
“ผมขอย้ำว่าความพยายามของรัฐบาล หรือเครือข่ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เครือข่ายเสื้อแดงที่จะดำเนินการทุกวิถีทาง กดดันขัดขวางการทำงานของพวกผมต่อเนื่อง ต้องผิดหวังเพราะพวกผมไม่กลัว และจะเดินหน้าเพื่อความถูกต้องเพียงอย่างเดียว ซึ่งการที่จะให้ผมหยุดหรือยอมให้ความไม่ถูกต้องเกิดขึ้นเป็นไปไม่ได้ ถึงผมตาย นายสุเทพตาย ก็มีคนเป็นหมื่นเป็นแสนที่ไม่มีวันยอม เราจะยอมรับกระบวนการยุติธรรม แม้จะมีความรู้สึกว่าถูกกลั่นแกล้งแต่จะอยู่ภายใต้กฎหมายไทย พวกตนตรงไปตรงมาไม่ขี้ขลาดเหมือนบางคนที่ไม่กลับมารับโทษ ผมขึ้นศาล ถูกโทษประหาร คุณก็กลับมาติดคุด นี่คือจุดยืนของตนและพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนการที่จะเปิดสภา และจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ไขมาตรา 309 นำกฎหมายนิรโทษกรรมขึ้นมาพิจารณานั้น พวกตนก็จะสู้ต่อไป”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
