ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




กรณ์ โพสต์เฟซ วิจารณ์ รถคันแรก เชื่อ คอมเม้นท์ โต้ เป็นของทีมฝ่ายตรงข้าม หวังถล่ม

กรณ์ โพสต์เฟซ วิจารณ์ รถคันแรก เชื่อ คอมเม้นท์ โต้ เป็นของทีมฝ่ายตรงข้าม หวังถล่ม

วันที่ 08 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 23:30:25 น.

   

            เมื่อวานนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ค "Korn Chatikavanij" ถึงนโยบายคืนภาษีรถคนแรกของรัฐบาลว่าบางเรื่องพูดแล้วต้องพูดอีก

            วันก่อนผมนั่งรถบนทางด่วนออกไปทางปทุมฯตอนประมาณ๐๖๓๐น.. รถขาเข้าก็ติดยาวแล้ว แต่ก่อนนี้กว่าจะเริ่มติดจริงๆต้องประมาณเจ็ดโมงเช้า ต้องบอกว่าเป็นภาพที่หดหู่อย่างมาก

            ใครเห็นก็ต้องนึกภาพทันทีว่า ถ้าทุกคนที่ตื่นแต่ตีห้า เพื่อมานั่งรถติดอยู่ในขณะนั้น สามารถขึ้นรถไฟฟ้าตอน ๐๗๐๐น. เพื่อเข้ามาทำงานตอน ๘ โมงเช้า ไม่ต้องคิดเลยว่าคุณภาพชีวิตจะดีขึ้นแค่ไหน เงินก็ประหยัดมหาศาล

             ในการทำงานการเมือง บางครั้งจะมีบางเรื่องที่ถึงแม้ว่าอาจจะทำให้เสียคะแนนแต่เราก็ต้องพูด เพราะเป็นเรื่องที่สะท้อนความคิดที่ผิดพลาด และสร้างความเสียหายจริงๆ

             เรื่องหนึ่งคือ ′รถคันแรก′ ซึ่งผมขอออกตัวจากใจจริงก่อนว่าผมขอ ′แสดงความยินดี′ กับทุกคน 1,300,000 คนที่จะได้ภาษีคืนส่วนหนึ่ง ก็หวังว่าจะเก็บเอาไว้ผ่อนรถที่ได้มา หรือจ่ายค่าประกัน ค่านำ้มัน ค่าอะไหล่ที่จะตามมานะครับ แต่รัฐบาลกำลังสรุปว่าความสุขของคน 1.3ล้านคนนั้น เป็นคำตอบสุดท้ายว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี

            ซึ่งไม่ใช่แน่นอน ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องรถติด เพราะเราก็ต้องยอมรับว่าที่รถติดเพิ่มขึ้นนั้น สาเหตุไม่ได้มาจาก ′รถคันแรก′ อย่างเดียวแน่นอน   แต่ผมนั่งคิดดูว่า รถจากโครงการนี้ ความยาวประมาณคันละสามเมตร ถ้าเอามาเรียงแถวต่อกันก็จะเท่ากับเกือบ 4ล้านเมตร หรือเท่ากับ 4,000 กิโล ถ้าเอาไปจอดไว้บนถนนสี่เลนจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ให้เต็มทุกเลน ก็ยังไม่มีที่พอสำหรับ ′รถคันแรก′ ทุกคัน

              ผมก็เข้าใจนะครับ ว่าผู้ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ อาจจะเคืองว่าเสียงที่ออกมาค้านและออกมาบ่นอาจเป็นเสียงของผู้ที่มีโอกาสมีรถมาก่อน และเหมือนกับมาพยายามปิดโอกาสของผู้ที่ยังไม่มี...
 
ก่อนหน้า กรณ์ จะโพสต์ข้อความ เรื่อง รถคันแรกหนึ่งวัน
 
 
นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอิสระ   เขียนถึงนโยบายรถคันแรก  แต่ในมุมที่แตกต่างจาก กรณ์และทีวีสาธารณะที่โจมตีนโยบายดังกล่าว
 
            นิธิ เห็นว่า นโยบายรถคันแรกก็จะเป็นจุดเริ่มต้นแก่ยุคใหม่ของสังคมเมืองที่สงบสุขในประเทศไทย  "นโยบายหลายแหล่ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้นมีข้อที่ควรตำหนิติติงทั้งนั้นแต่ติเพื่อจะหาทางเลือกที่สร้างสรรค์ หรือติเพื่อจองล้างจองผลาญด้วยจุดประสงค์จะล้มรัฐบาลนี้ให้ได้ ทีวีสาธารณะควรทำหน้าที่อย่างไหนกันแน่ หรือต้องการเป็นแค่บลูสกายสองเท่านั้น"
 
 
           ล่าสุด ในสังคมออนไลน์ ชี้ชวนกันให้ไปดู รถยนต์ของ กรณ์ จาติกวณิชและ วรกร จาติกวณิช คู่สมรส  ที่ยื่นต่อป.ป.ช   รถยนต์ส่วนตัวของกรณ์มีมูลค่า 9.9 ล้าน รถยนต์ของ วรกร มูลค่า 5.6 ล้าน   ขณะที่ความมั่งคั่งของกรณ์และวรกร เขาทั้งสองมีทรัพย์สินมากกว่า หนี้สิน กว่า 879 ล้าน  มหาเศรษฐีร้อยล้านกับรถ 6 คันมูลค่ากว่า 15 ล้าน  กับรถยนต์คันแรกของชาวบ้าน  ดูๆ ไปก็เข้าใจวิธีคิดของ กรณ์ ได้ไม่ยาก !!! 
 

 
 
 
โต้ชาวเน็ต เชื่อ "คอมเม้นต์"เป็นของทีมงานฝ่ายตรงข้าม"จัดตั้ง"เพื่อถล่ม

             หลังจากที่วานนี้ (7ม.ค.55) นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค "Korn Chatikavanij" ถึงนโยบายคืนภาษีรถคันแรกของรัฐบาล หลังจากนั้นมีกระแสทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก วันนี้ (8ธ.ค.) จึงโพสต์ข้อความตอบโต้ว่า        
 

′รถคันแรก′ (อีกครั้ง)

ลองอ่านความเห็นที่ส่งเข้ามาถึงผมครับ...

" ไอ้....ขอถามหน่อย ที่บ้านมีรถกี่คัน...
แล้วชาวบ้านเค้าอยากมีบ้าง มันไปหนักหัว...เหรอ
แล้วรถที่ติดตอนนี้ มันใช่รถคันแรกทั้งหมดหรือไม่
เอาสมองอันน้อยนิด..คิดบ้างนะ
อย่าออกมาโชว์โง่ให้มาก
จะรถคันแรกหรือคันไหนๆมันก็ไม่เกี่ยว
ตอนนี้รถจะติดก็ต้องติด เพราะมันไม่ใช่สมัยก่อนแล้ว
รุ่นพ่อแม่...ขี่ควายอ่ะ"

           ในยุค digital นี้ นักการเมืองต้องอดทนมากเป็นพิเศษครับ! หลายการแสดงออกอย่างเช่นนี้จะเป็นลักษณะ ′จัดตั้ง′ ตามแนวของทีมงานเขา (ที่พูดอย่างนั้นเพราะจะมาเป็นชุดในเวลาเดียวกัน ข้อความเหมือนกัน ฯลฯ หลังจากที่มีการโจมตีแนวคิดผมในเว็บแดง) แต่หลายคนก็คิดอย่างนี้จริง

ที่แน่ๆผมไม่ได้ว่าคนซื้อรถ ดีใจด้วยอีกต่างหากที่ได้ลดภาษี แต่ผมวิจารณ์นโยบาย

            ต่อคำท้าว่า ′คุณมีรถได้ ทำไมเรามีไม่ได้′ ขอตอบผู้ที่มีอารมณ์นี้ว่า คุณมีรถได้ครับ ไม่ได้มีใครว่าอะไร แต่คำถามต่อรัฐบาลคือ ทำไมรัฐบาลจึงให้เป็นภาระภาษีของผู้ที่ซื้อรถในอดีต หรือผู้ที่จะซื้อรถในอนาคต ที่จะเสียภาษีเพื่อบำรุงถนน พัฒนารถเมล์ ฯลฯ แต่เว้นให้กับผู้เข้าโครงการเท่านั้น

เพราะถ้าคิดว่าเป็นนโยบายที่ดี ทำไมไม่ลดภาษีให้ทุกคน ตลอดไป? คนซื้อรถปีหน้าเขาก็จะต้องเสียภาษี ในขณะที่ผู้เข้าร่วมโครงการปีนี้ไม่ต้องรับผิดชอบเลย อย่างนี้สองมาตรฐานหรือไม่?

             และถ้าเรายึดหลักว่า ′มึงมีได้กูก็ต้องมีได้′ แลัวสำหรับอีกสิบๆล้านคนที่ยังไม่มีรถ ตรรกะคือรัฐบาลควรมีนโยบายสนับสนุนให้ทุกคนมีรถหรือครับ ผมไม่คิดว่ามีประเทศไหนเขาคิดอย่างนั้น และถึงคิดก็ทำไม่ได้

           ส่วนต่อคำถามเบื้องบนว่า รถติดเป็นเพราะ ′รถคันแรก′ อย่างเดียวหรือ ผมขอให้ทำใ้จให้กว้างและกลับไปอ่านบทความเดิมของผมอีกครั้ง ผมเขียนไว้ชัดว่า รถไม่ได้ติดเพราะเรื่องนี้เรื่องเดียว ส่วนใครมีรถกี่คันผมว่าประเด็นที่สำคัญคือ ๑. เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ๒. มีที่จอดรถของตัวเองหรือเปล่า หรือต้องจอดบนที่สาธารณะ และ ๓. ยังไงๆก็ขับได้ทีละคันเท่านั้นครับ

           ส่วนที่พูดเชิงประชดว่า ถ้าไม่ชอบรถติดก็อย่าขับรถ ผมหวังว่านี่ไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงจากรัฐบาลนะครับ

มาพูดกันด้วยเหตุผลดีกันดีกว่า ผมมีข้อเสนอเยอะ แต่ต้องมีความเข้าใจครงกันก่อนว่า ′นโยบายสาธารณะ′ และ ′นโยบายประชานิยม′ นั้นต่างกันอย่างไร 

 







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน