เอแบคแนะกกต.ร่วมมือตร.สกัดวิชามาร ระวังโพลเทียม
วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เตือนให้ประชาชนระวังการทำโพลเทียม โดยระบุว่าขณะนี้สังคมไทยหันมาสนใจเรื่องโพลเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.กันอย่างกว้างขวางจึงอยากให้ประชาชนรู้เท่าทันกลโกงโพลเลือกตั้งเพราะโพลเทียมหรือซูโดโพลล์ (Pseudo Poll) เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อระบอบประชาธิปไตย
นายนพดลกล่าวว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้เริ่มมีปรากฏให้ได้ยินกันบ้างแล้วว่ามีโพลเทียมเกิดขึ้น วิธีการคือกลุ่มนักทำโพลเทียมจะเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มคนมีฐานะปานกลางค่อนข้างสูงขึ้นไปที่มีโทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือ แล้วโทรศัพท์เข้าไปหาทำทีว่ากำลังทำโพลอยู่ แต่จะเริ่มต้นให้ข้อมูลในทางเสื่อมเสียต่อผู้สมัครคนหนึ่งว่า ผู้สมัคร ก.เคยตัดสินใจผิดพลาดมีคดีความมากมายถึงขั้นฟ้องร้องกัน คุณจะยังเลือกผู้สมัคร ก.อีกหรือไม่ รวมทั้งตั้งคำถามว่าผู้สมัคร ข.เป็นข้าราชการมือหนึ่ง มือสะอาด ทำงานดี ทำงานเก่ง กล้าหาญ มีผลงานเยอะแยะมากมาย คุณคิดว่าผู้สมัคร ข.เหมาะสมจะได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯกทม.หรือไม่
"การทำโพลเทียมเช่นนี้เป็นเทคนิครูปแบบใหม่ของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในบางประเทศเพื่อทำการโยกย้ายฐานสนับสนุนจากผู้สมัครคนหนึ่งไปให้ผู้สมัครอีกคนหนึ่ง โดยต่างประเทศเรียกกันว่า พุส์ชโพลล์ (Push Poll) หรือแปลเป็นไทยว่า โพลผลักดัน ซึ่งเป็นกระบวนการทำโพลที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เป็นวิชามารที่อาจจะถูกนำมาใช้กันในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้" นายนพดลกล่าว และว่า จึงจำเป็นต้องออกมาเตือนสังคมและประชาชนทั่วไปว่า ควรใช้วิจารณญาณในการรับโทรศัพท์หรือพูดคุยกับขบวนการนักทำโพลเทียม เมื่อได้ยินข้อมูลจากพวกเขาไม่ว่าในทางดีหรือร้ายต่อตัวผู้สมัครให้รีบวางสาย
นายนพดลกล่าวว่า ขอเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดศูนย์ฮอตไลน์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนแจ้งเบาะแสเข้มงวดกวดขันจับกุมขบวนการเหล่านี้ เนื่องจากการทำโพลเทียมเช่นนี้น่าจะเข้าข่ายในลักษณะจูงใจให้เข้าใจผิดต่อความนิยมของผู้สมัคร หรือใส่ร้ายป้ายสีกันชัดเจนและเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยตรง อันเป็นอันตรายร้ายแรงต่อระบอบประชาธิปไตย และไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งคนอื่นๆ
