ยิงสวน10ไอ้โม่งบุกรร.พยาบาล ดับ1
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 มีนาคม พ.ต.ท.แดน คงพลปาน ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นและชายฉกรรจ์กว่า 10 คน สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า นั่งมาในรถกระบะแค็บ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดที่หน้าสถานบันเทิงสปีดมิวสิคฮอลล์บุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมืองบุรีรัมย์ เยื้องหน้าโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล ก่อนจะพากันกระโดดลงจากรถ โดยมีอาวุธทั้งอีโต้ และมีดดาบ รวมทั้งสนับมือ วิ่งกรูเข้ามาในบริเวณโรงเรียน ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา เพื่อจะเข้าไปทำร้ายผู้ที่อยู่ในโรงเรียน รวมทั้ง นายวัชรพล ทองศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล ท่ามกลางนักศึกษาและผู้ปกครองจำนวนมากที่กำลังรอเข้ารับการปฐมนิเทศนักศึกษาอยู่ด้านหน้าของโรงเรียน ก่อนเปิดทำการเรียนการสอนเป็นวันแรกอย่างอุกอาจโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำให้นักศึกษา รวมทั้งผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจวิ่งหลบหนีกันอลหม่าน
ทั้งนี้ กลุ่มชายฉกรรจ์ยังพยายามจะตามเข้าไปทำร้ายนายวัชรพล แต่นายขวัญฟ้า หรือเจ๋ง ศรีนารัตน์ พนักงานขับรถประจำโรงเรียน จึงชักอาวุธปืนออกมายิงใส่กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว เพื่อหวังจะข่มขู่ ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุพากันทิ้งอาวุธและวิ่งขึ้นรถหลบหนีไป เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับนักศึกษา และประชาชนที่อยู่ละแวกใกล้เคียงอย่างมาก
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบอาวุธมีดของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ทิ้งไว้หน้าโรงเรียนจำนวนมาก และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 13 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่บางส่วนระดมออกติดตามไล่ล่าคนร้าย ทั้งวิทยุให้ตั้งด่านสกัดตามถนนทุกสายที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี จนสามารถติดตามรถยนต์ต้องสงสัยพาผู้บาดเจ็บจากการถูกอาวุธปืนยิง ส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ จึงรีบรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงโรงพยาบาลบุรีรัมย์ พบรถยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทันพลัส สีขาว ทะเบียน บพ 2314 บุรีรัมย์ จอดอยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลบุรีรัมย์ มีรอยคราบเลือดติดอยู่ตามกระบะและด้านข้างของตัวรถ รวมทั้งมีผู้บาดเจ็บนั่งอยู่ด้านหลังกระบะ 3 ราย เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุจริง จึงควบคุมตัวและส่งตัวผู้บาดเจ็บให้แพทย์รักษา 2 รายคือ นายกฤษฎางค์ หรือกอล์ฟ ดวงจิต อายุ 21 ปี ถูกยิงบริเวณเป้ากางเกง และนายรณชัย ศรีจงกล อายุ 17 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก ซึ่งนายรณชัยทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเจ้าหน้าที่ควบคุมไว้และนำไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์
จากการสอบสวนนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 654 หมู่ 5 บ้านพบสุข ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้ร่วมก่อเหตุให้การว่า ร่วมกับเพื่อนรวม 5 คน ได้รับการติดต่อชักชวนจากนายบีม ไม่รู้ชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งเป็นเพื่อนในละแวกบ้านเดียวกัน ให้มาทำงานรับจ้างแจกใบปลิว และกระทืบคน โดยเสนอให้ค่าแรงวันละ 1,000 บาท จึงเดินทางมาพร้อมกับนายบีม นายโทน นายฟลุ๊ก และนายบุ๋ม ไม่รู้ชื่อและนามสกุลจริง โดยขึ้นรถไฟจากจังหวัดนครราชสีมามาลงที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. จากนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 8 คน ซึ่งไม่รู้จักเช่นกัน ใช้รถปิกอัพ ยี่ห้อไทรทัน 4 ประตู สีขาว มารับพวกตน และพาไปเปลี่ยนรถเป็นรถกระบะปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยมีอาวุธมีดรวมทั้งหมวกไอ้โม่ง เตรียมไว้ให้อยู่ในกระบะรถ
โดยหนึ่งคนในรถบอกกับพวกตนว่าเมื่อถึงที่ให้ลงไปลุยเลย กระทั่งคนขับรถพาไปจอดในจุดเกิดเหตุและลงจากรถเพื่อเข้าไปในโรงเรียน พวกตนก็ถูกยิงสวนออกมาจากในโรงเรียน และพากันหลบหนีโดยมีรถกระบะ ยี่ห้อไทรทัน สีขาวและสีดำ 2 คัน วิ่งมารับ นำส่งโรงพยาบาล กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม โดยไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากเรื่องใด อีกทั้งยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนกับเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บเสพยาบ้ามาจากจังหวัดนครราชสีมา
นายวัชรพล ทองศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล กล่าวว่า สาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของคู่แข่งซึ่งเปิดโรงเรียนสอนหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาลในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์เหมือนกัน ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มีชาย 2 คนสวมหมวกกันน็อก บุกเข้ามาในโรงเรียนช่วงเวลากลางวัน จากนั้นใช้อาวุธมีดทำร้ายตนเองได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและศีรษะ ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาภายในโรงเรียน ต้องเย็บมากกว่า 100
เข็ม ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว แต่จนบัดนี้คดียังไม่มีความคืบหน้าและไม่สามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้ ดังนั้นจึงปักใจเชื่อว่าการก่อเหตุอุกอาจครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มเดียวกัน
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ โดยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุพร้อมทั้งสอบสวนขยายผลเพื่อหาชนวนการก่อเหตุที่แท้จริงต่อไป
