เตือน ขอทานรูปแบบใหม่ มาในมาดหนุ่มตี๋ ดูดี อ้างทะเลาะกับแฟน ลืมมือถือ-กระเป๋าสตางค์ ผู้เสียหายโผล่หลายราย เจอในกรณีเดียวกัน
ผู้ใช้เว็บไซต์ ซ็อคเกอร์ซัค ใช้ชื่อว่า u4614348 ได้มีการตั้งกระทู้เตือนไปยังผู้ใช้รายอื่นๆ ในหัวข้อ โดนหลอกเอาเงินกลางสยาม เตือนเพื่อนๆ ชาว SS ครับ หลังเจ้าตัวถูกมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ ที่มีลักษณะการแต่งตัว และท่าทางที่น่าจะเป็นคนมีอันจะกินในระดับหนึ่ง เข้ามาอ้างเหตุผลต่างๆนาๆ อาธิเช่น ทะเลาะกับแฟน และลืมมือถือและกระเป๋าสตางค์ไว้ในรถ หรือไม่ก็ถูกล้วงกระเป๋า ไม่มีทรัพย์สินติดตัว เป็นต้น จากนั้นก็ตบท้ายด้วยการขอยืมเงินโดยอ้างว่าจะคืนให้ในภายหลัง แต่สุดท้ายหายเข้ากลีบเมฆ
นอกจากนี้ยังอ้างตัวเป็น นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังย่านบางนา-ตราด ซึ่งหลังจากการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าว ได้มีเหยื่อหลายรายที่ถูกมิจฉาชีพรายนี้หลอกลวง ออกมาแสดงความคิดเห็นหลายต่อหลายราย ในกรณีคล้ายๆกัน
ล่าสุดวันที่ (7ธ.ค.) เหยื่อสาวรายหนึ่งที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวถึงเรื่องราว ขณะเดินทางกลับบ้านบริเวณตึก ตึกเอ็มไพร์ ย่านสาทร เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ได้พบกับมิจฉาชีพหน้าตี๋ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนคนเดียวกัน โดยได้มีการอ้างว่าทะเลาะกับแฟน ทั้งมือถือยังแบตหมด จึงเข้ามาขอความช่วยเหลือ แต่เหยื่อบอกว่าสามารถช่วยเงินค่ารถได้เพียงแค่ 100 บาทเท่านั้น แต่หนุ่มรายนี้อ้างว่าบ้านอยู่ไกลถึงย่าน บางนา 100 บาทคงไม่พอค่ารถ เหยื่อจึงยอมเพิ่มเงินให้เป็น 200 บาท
อย่างไรก็ตาม มิจฉาชีพรายนี้ยืนยันว่าจะคืนเงินให้ ซึ่งจะต้องทำการแลกเบอร์กันก่อน แต่ทันทีที่เหยื่อยื่นโทรศัพท์มือถือให้กดเบอร์ กลับอ้างว่าไว้เล็บ และกดไม่ถนัด โดยหลังจากนั้น เหยื่อคาดว่ามิจฉาชีพรายนี้น่าจะกลัวลายนิ้วมือติดที่หน้าจอ
แต่พอวันรุ่งขึ้นเหยื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้ เพื่อขอเงินที่ให้ไปคืน แต่ปรากฏว่าเบอร์ดังกล่าวปิดเครื่อง จึงทำให้แน่ใจว่าได้ถูกหลอกเข้าแล้วจริงๆ และยิ่งมั่นใจขึ้นเมื่อค้นหาเรื่องราวในอินเตอร์เน็ต ก็ทำให้แจ้งแก่ใจ เนื่องจากชาวออนไลน์ได้โพสต์เรื่องราวคล้ายๆกัน โดยต่างกันแค่เพียงแค่สถานที่ ซึ่งจุดเกิดเหตุส่วนใหญ่จะอยู่ในย่าน สยาม เจริญกรุง ลาดพร้าว รัชโยธิน ปทุมวัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ยอมควักเงิน ให้เงินกับมิจฉาชีพในรูปแบบนี้ ต่างให้เหตุผลคล้ายๆกันว่า พวกเขาคิดว่าชายหนุ่มรูปร่าง หน้าตา ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเข้ามาหลอกลวงเพื่อแลกกับเงินเล็กๆน้อยๆและคิดว่าน่าจะมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ รวมถึงให้เหตุผลว่าเพราะสงสาร และไม่คาดคิดว่าจะถูกหลอกเช่นนี้
อย่างไรก็ตามกระทู้ดังกล่าวตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่สาเหตุที่ยังคงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นซ้ำๆ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้เท่าทันถึงการเรี่ยไรเงินในรูปแบบนี้
ขอบคุณข่าวจาก MThai News