ควรตรวจสุขภาพตาเมื่อไร
ดวงตา 2 ข้างของเรา เริ่มมีการพัฒนาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เจริญพัฒนาเพิ่มขึ้นหลังคลอด และสมบูรณ์เมื่ออายุ 6 – 7 ปี หลังจากนั้นคนส่วนใหญ่จะมีดวงตาปกติจนอายุ 40 ปี จึงเริ่มมีการเสื่อมของดวงตาลงเรื่อยๆ และเสื่อมมากเมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไป ในแต่ละวัย ปัญหาของดวงตาจึงแตกต่างกันตามช่วงอายุ การตรวจเช็คสุขภาพตา มีความจำเป็นแตกต่างกันตามช่วงอายุดังนี้
1. ช่วงแรกคลอดถึงอายุ 2 ปีเต็ม ถ้าบุตรหลานของท่านมีลักษณะต่อไปนี้ สมควรตรวจตา
- คลอดก่อนกำหนด
- ไม่สบตาแม่ ไม่จ้องสิ่งของ
- ตาเหล่เข้าหรือออก, ตากระตุกหรือสั่น
- มีประวัติพ่อหรือแม่เป็น “ตาขี้เกียจ” หรือสายตาสั้นมาก
- สังเกตเห็นแววตา มีสีขาววาว หรือขาวขุ่นสะท้อนให้เห็นน้ำตาคลอตาข้างใดข้างหนึ่งตลอดเวลา
2. ช่วงอายุ 3-5 ปี วัยก่อนเข้าโรงเรียน
- พบ 3% มีตาขึ้เกียจ ดังนั้นวัยนี้จึงมีความจำเป็นต้องตรวจตา, ตรวจสายตา เพื่อหาภาวะตาขี้เกียจ และแก้ไขให้หาย (ถ้าอายุมากกว่า 8-9 ปี ไม่สามารถแก้ไขได้)
3. ช่วงวัยเรียนถึงวัยรุ่นช่วงนี้เด็กส่วนมากตาเห็นดีและปกติ ในรายที่ผิดปกติควรตรวจตา
- ดูกระดานไม่ชัด ต้องหยีตา, ก้มหน้าเอียงหน้า จึงจะชัดขึ้น
- ปวดหัว ปวดตา เมื่ออ่านหนังสือ หรือใช้สายตามากๆ
- สงสัยตาบอดสี
- กลางคืนตามัวมาก ปรับตาในที่มืดไม่ค่อยได้
4. ช่วงวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน ไม่ค่อยมีปัญหา ยกเว้นในรายที่ใช้สายตามากๆ ควรตรวจสุขภาพเมื่อ
- สายตาสั้นเพิ่มขึ้นทุกปี
- มีหยากไย่ลอยไปมาเป็นครั้งคราว หรือมีแสงแวบๆในตา
- มีประวัติต้อหิน ในครอบครัวและญาติ
5. ช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป เริ่มมีการเสื่อมของดวงตา ควรเช็คสุขภาพตาทุก 1-2 ปี เพื่อ
- ตรวจวัดความดันลูกตา หาโรคต้อหิน
- ตรวจวัดสายตา ช่วงอ่านหนังสือ
- ตรวจสุขภาพลูกตา เพื่อหาโรคต้อกระจก ต้อหิน
- ในรายที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง อาจมีการเปลี่ยนแปลงของจอประสาทตาจากโรคที่มีผลต่อการเห็น
- ยารักษาโรคเรื้อรังบางตัว อาจสะสมในตาและมีผลต่อตาได้ เช่น ยารักษาข้ออักเสบเรื้อรัง ยารักษาวัณโรค ยาSteroid ฯลฯ ถ้าท่านจำเป็นต้องใช้ยาระยะยาว ควรตรวจตาเป็นระยะ
ที่มา http://www.phyathai.com/medicalarticledetail/1/19/1126/TH