เสนอสูตรแบบผสมทางรอดประเทศ : เลือกตั้งไม่ตอบโจทย์

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2558 เรียบเรียงโดยทีมงาน www.legendnews.net
ยืนหยัดอยู่บนเส้นทางฝ่ายนิติบัญญัติมาโดยตลอดในห้วงประเทศไทยติดหล่มความขัดแย้ง เข้าใจและเข้าได้กับทุกกลุ่มการเมือง
เมื่อ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ก็เดินหน้าระดมสมองคลอดพิมพ์เขียวการปฏิรูปด้านนี้ออกมา
โดยให้สัมภาษณ์ ทีมข่าวการเมือง ว่า ใน กมธ.มีตัวแทนจากกลุ่มการเมือง ทั้ง กปปส. นปช. พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ กองทัพ สื่อมวลชน และนักวิชาการ
ข้างนอกมองเข้ามาคงคิดว่าใน กมธ.จะพูดกันไม่รู้เรื่อง แต่มันเกิดปรากฏการณ์ประหลาดอย่างหนึ่ง เมื่อแต่ละคนกลายเป็นคนที่มีเหตุผลมากที่สุด ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดปรากฏการณ์แบบนี้ขึ้นได้
เมื่อคนเหล่านี้พูดคุยด้วยเหตุและผล สะท้อนถึงปัญหา ประสบการณ์ วิธีการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ก็กลายเป็นแหล่งมันสมองของชาติ เพื่อหาทางออกจากวิกฤติความขัดแย้ง
จากการทำงานร่วมกัน 2 เดือน ประชุม 4 วันต่อสัปดาห์ เพื่อศึกษา วิเคราะห์ จัดทำแนวทาง แผนการปฏิรูป วิธีการปฏิรูป
พร้อมกำหนดเวลาการปฏิรูป ข้อเสนอแนะ เพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ทั้งระยะสั้น ระยะยาว วิธีการปฏิรูป เพื่อดำเนินงานปฏิรูปอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม เป็นการสืบสานต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยคำนึงถึงความสำคัญ เร่งด่วน สัมฤทธิผลของการปฏิรูปในระยะเวลาที่เหลืออยู่
และยังได้เชิญผู้มีความรู้ มีประสบการณ์จากหลายด้าน มาร่วมคิด ร่วมกันแก้ปัญหา พร้อมเชิญฝ่ายกระบวนการมีส่วนร่วมในการรับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความเชื่อมโยงกับการแก้ปัญหาทางการเมืองในมิติต่างๆ บนเป้าหมายเปลี่ยนโฉมเป็นการเมืองใหม่ที่ประชาชนยอมรับ รักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน
กมธ.จึงมีโจทย์ข้อใหญ่ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมืองให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คือ การได้นักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่นที่มีอุดมการณ์ เสียสละ เป็นตัวแทนของประชาชน มีจริยธรรม คุณธรรม รักษาผลประโยชน์ของประเทศ สามารถบริหารบ้านเมืองที่ดีได้ ไม่ทุจริตคอร์รัปชัน
ลองมองย้อนกลับไปในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา นักการเมืองถูกนำไปเป็นกลไกของระบบธุรกิจการเมือง
เริ่มจากลงทุนให้ได้ ส.ส. จัดตั้งรัฐบาล ทุจริตคอร์รัปชัน ถอนทุนแต่ละปีจำนวนมหาศาล เพื่อหาทุนลงเลือกตั้งครั้งต่อไป เป็นวัฏจักรอย่างนี้ตลอดมาไม่ได้เป็นการเมืองในอุดมคติหรือ มีอุดมการณ์
ฉะนั้นการแก้ไขปัญหาควรเริ่มที่ต้นเหตุ เช่น ขจัดกลุ่มทุนที่เล่นการเมืองโดยตรงและกลุ่มทุนที่ส่งตัวแทนเข้ามาเป็นนักการเมืองอยู่ใน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง กมธ.จึงเสนอตัด ส.ส.บัญชีรายชื่อออกและให้มีเฉพาะ ส.ส.เขต เพื่อดูแลประชาชน
การให้ได้มาซึ่งระบบการเมืองที่ดี พรรคการเมืองเข้มแข็ง เป็นพรรคการเมืองของประชาชน เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม เช่น บริจาคเงินภาษีให้พรรคการเมือง โดยประชาชนผู้ยื่นบัญชีภาษีเงินได้ แจ้งในเอกสารยื่นภาษีว่าจะสนับสนุนเงินให้พรรคการเมืองใด ก็ให้รัฐดำเนินการจัดสรรงบประมาณให้พรรคการเมืองนั้น
ให้ประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคช่วยกันบริจาคเงินเข้าพรรค ภายใต้การบริจาคต้องมีข้อจำกัด ไม่ใช่บริจาคโดยไม่มีเพดาน จะกลายเป็นพรรคการเมืองของคนใดคนหนึ่ง กลุ่มคนหรือตระกูลใดตระกูลหนึ่ง
การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม มีมาตรการป้องกันการลงทุนในทางการเมือง เพื่อตัดตอนไม่ให้เข้าไปถอนทุน ทุจริตคอร์รัปชัน เพราะสภาพปัญหาที่ผ่านมาโดยเฉพาะการทุจริตการเลือกตั้ง การซื้อสิทธิขายเสียง มีความรุนแรงและซับซ้อน ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น เมื่อคดีไปสู่ศาลมักจะเอาผิดไม่ได้
ฉะนั้นจะทำอย่างไรให้ กกต.มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจัดการเลือกตั้ง จะต้องกำหนดบทลงโทษทางอาญาที่รุนแรง เด็ดขาดกับนักการเมืองที่ทุจริตการเลือกตั้ง หัวคะแนน รวมถึงนายทุนที่แจกเงินให้ทุกพรรคการเมือง
การกำหนดเขตเลือกตั้งเป็นเขตใหญ่เรียงเบอร์ ประชาชน 1 คนเลือกผู้สมัคร ส.ส.ได้ 1 คน ตามหลักวันแมนวันโหวต จะแก้ปัญหาการซื้อเสียงได้ส่วนหนึ่ง
การมีองค์กรตรวจสอบ อำนาจและมีมาตรการการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อกำกับควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐที่เข้มข้น ซึ่งเมื่อคนเข้าสู่ตำแหน่งแล้วควรมีระบบตรวจสอบ เอาผิดผู้ที่ทุจริต ผู้ที่ใช้อำนาจรัฐแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง พวกพ้อง
เช่น ที่ผ่านมาคดีทุจริตของนักการเมืองเมื่อไปถึงวุฒิสภาแต่ไม่สามารถอดถอนได้ ควรให้อำนาจการถอดถอนไปอยู่ที่ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่พิจารณาถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาตรการนี้จะทำให้นักการเมืองกลัว เพราะฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหารถูกคานอำนาจโดยฝ่ายตุลาการ
ขณะเดียวกันฝ่ายตุลาการควรถูกถอดถอนได้เช่นกันหากกระทำผิดตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อค้านอำนาจซึ่งกันและกัน
ที่สำคัญบทลงโทษทางกฎหมายคดีทุจริตเลือกตั้ง โกงการเลือกตั้งอาจใช้หลักการเดียวกับคดีการทุจริตคอร์รัปชันที่ไม่มีอายุความ ไม่มีบทรอลงอาญา ถ้าจับได้ต้องติดคุกสถานเดียว
การเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองที่ดี เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว โดยกำหนดให้มีหลักสูตรการศึกษาทางการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตย เริ่มตั้งแต่เด็กและเยาวชน และมีการให้ความรู้กับประชาชน
เพราะที่ผ่านมาเราไม่ได้สร้างให้เรียนรู้รักษาผลประโยชน์หรือ ประชาธิปไตยเพื่อส่วนรวม ไม่ได้ให้โอกาสเยาวชนได้เรียนรู้ ได้รับผิดชอบ ไม่ได้ให้ความรู้ทางการเมือง อย่างน้อยควรมีหลักสูตรขั้นพื้นฐานให้เด็กได้เรียนรู้
อีกทั้งกฎหมายบางฉบับก็เป็นปัญหาต่อการส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ประชาธิปไตย การพัฒนาการเมือง การสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองเลยไม่เกิดขึ้น
การแก้ปัญหาความขัดแย้ง การสร้างความปรองดอง และการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นซ้ำอีก
ซึ่งควรมีมาตรการป้องกันไม่ให้การเมืองดึงประชาชนเข้ามาถือหางจนเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เช่น ห้ามพรรค การเมืองหรือคนที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังม็อบการเมือง การเมืองจะต้องไม่สร้างม็อบการเมือง
จะต้องสร้างความเข้าใจร่วมของสังคมต่อเหตุแห่งความขัดแย้ง การแสวงหาและเปิดเผยข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ความรุนแรง การอำนวยความยุติธรรมสำนึกรับผิดและการให้อภัย
การเยียวยา ดูแลและการฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบ การสร้างสภาวะที่เอื้อต่อการอยู่ร่วมกัน รวมถึงมาตรการป้องกันการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
ภารกิจเหล่านี้ต้องทำควบคู่ให้ครบทุกด้าน เพราะภารกิจแต่ละด้านมีผลเชื่อมโยงและหนุนเสริมต่อกัน
ขณะเดียวกัน กมธ.จะเสนอให้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการ เพื่อศึกษาดำเนินการเชิงนโยบายของรัฐเพื่อการปรองดองในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้หลักการให้อภัย การสร้างบรรยากาศสมานฉันท์ การนิรโทษกรรมความผิดทางการเมืองให้ทุกฝ่าย ไม่รวมคดีทุจริตและคดีอาญา
จะทำอย่างไรให้เกิดการปรองดองและมีการนิรโทษกรรม นายเสรี บอกว่า จะศึกษาบทเรียนจากต่างประเทศที่เคยเกิดวิกฤติความขัดแย้ง วิธีแก้ไข พร้อมสร้างความปรองดอง เพื่อนำมาปรับใช้ในประเทศไทย
อาจจะต้องพิจารณาลงลึกถึงการสร้างความปรองดอง เพื่อให้ได้ทางออกที่ชัดเจน นำไปสู่การเสนอแก้ไขปัญหาตามระดับ ทั้งระดับนโยบายของรัฐบาล และระดับการออกเป็นกฎหมายขจัดปัญหาความขัดแย้ง สร้างแนวทางให้แต่ละฝ่ายยอมรับซึ่งกันและกัน
ถึงเวลานั้นแนวทางที่เราเสนออยากให้สังคมมีความเห็นตรงกัน หากยังมีความคิดเห็นไปคนละทิศคนละทาง แต่ละฝ่ายก็จะออกมากล่าวหากันไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก็จะไม่จบไม่สิ้นเสียที
ฉะนั้น ช่วงนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสม จะเสนอแนวทางขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองไปสู่สังคม เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาของประเทศให้อยู่ร่วมกันและเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง
โจทย์สำคัญจะต้องทำให้ประเทศไทยดีขึ้น
ไม่ได้อยู่ที่การเลือกตั้งอย่างเดียว.
ที่มา ทีมข่าวการเมือง 14 ธ.ค. 2558 05:01 ไทยรัฐออนไลน์