“อดีตข้าราชการ” ร่วมขบวนการ “กิมเอ็ง” แอบอ้างเบื้องสูง ขณะที่ “พล.ต.” เข้าพบ พงส.กองปราบฯ

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559  เรียบเรียงโดยทีมงาน www.legendnews.net

รอง ผบช.ก. ประชุมคดี “กิมเอ็ง” เผย ออกหมายจับ 2 อดีตข้าราชการ ร่วมขบวนการแอบอ้างเบื้องสูง ตุ๋นเหยื่อ ตามจับได้แล้ว 1 ยังหลบหนีอีก 1 ราย คาดได้ตัวเร็วนี้ ขณะที่ “พล.ต.- หน.ช่างภาพส่วนพระองค์” เข้าพบพนักงานสอบสวนแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยัน “กิมเอ็ง” อาสาช่วยผลิตสารคดีเฉลิมพระเกียรติ รับหลงเชื่อเพราะอ้างบุคคลชั้นสูง

       วันนี้ (30 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดี นางกมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือ นางกิมเอ็ง แซ่เตียว อายุ 62 ปี แอบอ้างสถาบันเบื้องสูงหลอกลวงให้เหยื่อบริจาคเงินถวายเบื้องบน เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวที่กองปราบปราม โดยมี พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย

       พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนางกมนทรรศน์ หรือกิมเอ็ง เพิ่มเติมนั้น ทราบว่า ได้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ป. แล้ว โดยพบพฤติการณ์ว่า นางกมนทรรศน์ ได้หลอกลวงนำเงินจากผู้เสียหายไปเรื่องซื้อผลไม้ เป็นมูลค่ารวม 7 ล้านบาท

       พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวต่อว่า ส่วนนายทหารยศ พล.ต. และ พ.อ. ที่จะเข้าแจ้งความในฐานะที่ตกเป็นผู้เสียหายด้วยนั้น ได้รับการประสานมาแล้วว่าจะเข้าแจ้งความในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ แต่เท่าที่ทราบก็ยังมีบางส่วนที่ยังไม่กล้าออกมาแจ้งความ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้น่าจะมีผู้เสียหายในคดีเข้าแจ้งความแล้วประมาณ 5 - 6 ราย และสำหรับคดีนี้มีการสืบสวนขยายผล โดยทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมไว้แล้ว 2 ราย ประกอบด้วย นายถาวร พวงประทุม อายุ 66 ปี อดีตพนักงานสำนักพระราชวังพิเศษ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1651/2559 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2559 และ นายสมศักดิ์ สิริยาคม ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และร่วมกันฉ้อโกง โดยทาง พ.ต.อ.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบก.ปคม. พร้อมกำลังเข้าจับกุม นายถาวร ไว้ได้แล้ว เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา ภายในบ้านของนายถาวร ย่านห้วยขวาง กทม. ขณะนี้อยู่ระหว่างควบคุมตัวมาสอบปากคำเพื่อพิจารณาดำเนินคดีต่อไป

       พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวอีกว่า ขณะนี้จึงเหลือเพียง นายสมศักดิ์ ที่ยังคงหลบหนีอยู่ แต่ก็คาดว่า น่าจะจับกุมตัวได้ในเร็ววันนี้ สำหรับพฤติการณ์ในการร่วมกระทำความผิดนั้น ก็จะมีการแต่งตัวให้คล้ายกับเจ้าหน้าที่ หลอกลวงให้ประชาชนทั่วไปที่พบเห็นเชื่อถือว่าเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับบุคคลชั้นสูง มีการนำของที่ได้รับแจกจากพิธีการต่าง ๆ มาดูแล และดำเนินการ ส่วนในรายละเอียดต่าง ๆ นั้น คงไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นรายละเอียดทางคดี แต่ยืนยันว่า ทางตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างรอบคอบรัดกุม และจะเร่งสืบสวนขยายผล หากพบว่ามีผู้ใดที่เกี่ยวข้องอีกก็จะดำเนินคดีทั้งหมด

       พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวด้วยว่า ขบวนการนี้น่าจะยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกหลายราย เนื่องจากการตรวจสอบยอดเงินที่กลุ่มผู้ต้องหาได้รับมานั้นยังสูญหายไปอีกเป็นจำนวนมาก นับเป็นสิบล้านบาท โดยไม่พบว่าหายไปอยู่กับใคร ทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงิน ส่วนจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกกี่รายนั้น ยังตอบไม่ได้ แต่ก็คาดว่าน่าจะมีเยอะ เพราะขบวนการนี้ทำกันมานานนับตั้งแต่นางกมนทรรศน์ หรือ กิมเอ็ง ออกจากคุกมาก็ไม่ได้มีอาชีพอื่นใด นอกจากนี้ ที่อ้างตัวว่า เป็นดอกเตอร์จากมหาวิทยาลัยเชอร์วูด สหรัฐอเมริกา ก็อยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าเป็นเพียงการแอบอ้างว่าได้รับวุฒิดังกล่าว เนื่องจากตัวเองยังอ่านหนังสือไม่ออกเขียนหนังสือไม่ได้

       ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้น่าจะมีข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวว่า จากที่ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า น่าจะเป็นลักษณะที่ถูกนางกมนทรรศน์ หลอกลวงมากกว่า คล้ายกับว่า ถูกชักชวนไปเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนางกมนทรรศน์ หรือหากมีบางส่วนที่กระทำผิด ก็น่าจะเป็นบุคคลที่เคยรับราชการจริง แต่ถูกไล่ออก หรือให้ออกจากงานไปแล้ว ทั้งนี้ ตนได้นัดหมายเพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนี้อีกครั้งในวันที่ 20 กันยายนนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะสรุปสำนวนคดีได้

       ทั้งนี้ มีรายงานว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนพบความเชื่อมโยงระหว่าง นางกิมเอ็ง นายถาวร และ นายสมศักดิ์ ว่า มีส่วนรู้เห็นและร่วมกันกระทำความผิด โดยพบหลักฐานชัดเจนเป็นรูปถ่ายขณะที่นางกิมเอ็งได้รับดอกไม้พระราชทานในงานวันเกิด จากสำนักพระราชวัง ซึ่ง นายถาวร อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง เชิญพานแจกันดอกไม้พระราชทาน ส่วนนายสมศักดิ์เป็นผู้มอบให้นางกิมเอ็ง

       ต่อมาเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต่อคุณ ภักดีชนก เจ้าของ หจก.ภักดีชนก พร้อมด้วย นายอาน้อม พงศ์กาญจนานุกูร หัวหน้าช่างภาพส่วนพระองค์ฯ เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และเข้าให้การในฐานะพยานในคดีของนางกมนทรรศน์ หรือ กิมเอ็ง ภายหลังปรากฏเป็นข่าวว่า ทาง หจก.ภักดีชนก ซึ่งเป็นผู้ผลิตวิดีทัศน์เฉลิมพระเกียรติ มีส่วนเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนางกมนทรรศน์ ทำให้ทาง หจก. ได้รับความเสียหาย  

       พล.ต.ต่อคุณ กล่าวว่า ได้รวมตัวทีมงานผู้ผลิตสารคดีเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว เพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน โดยตนรู้จักกับ นางกมนทรรศน์ เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ขณะที่ตนและทีมงานเดินทางไปลงนามถวายพระพร ที่ศาลาสหทัยสมาคม ภายในพระบรมมหาราชวัง หลังจากลงนามถวายพระพร เสร็จสิ้น นางกมนทรรศน์ ก็เข้ามาพูดคุยตีสนิท ผ่านการแนะนำจากบุคคลผู้หนึ่งซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือว่า นางกมนทรรศน์ รู้จักกับบุคคลชั้นสูง และได้ติดต่อกันเรื่อยมา

       พล.ต.ต่อคุณ กล่าวด้วยว่า จากนั้นตนมีโครงการที่จะผลิตสารคดีเฉลิมพระเกียรติ นางกมนทรรศน์ ก็อาสาโดยขอสมัครเป็นผู้ร่วมแสดงในวิดีทัศน์ดังกล่าว และช่วยเหลือในขั้นตอนการผลิตส่วนอื่น ๆ แต่เมื่อปรากฏว่า นางกมนทรรศน์ ถูกจับกุม และมีภาพวิดีทัศน์จากสารคดีที่พวกตนจัดทำปรากฏออกมาทางสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าร่วมขบวนการกับนางกมนทรรศน์ จึงต้องเข้าแจ้งความในครั้งนี้

       พล.ต.ต่อคุณ เปิดเผยอีกว่า ได้นำพยานหลักฐานต่าง ๆ เป็นข้อความและรูปภาพต่าง ๆ ที่นางกมนทรรศน์ ส่งมาให้ ทำให้ตนหลงเชื่อว่า นางกมนทรรศน์ รู้จัก หรือใกล้ชิดกับบุคคลชั้นสูงจริง รวมทั้งจะนำรายชื่อผู้ที่แนะนำให้ตนรู้จักกับนางกมนทรรศน์ มาเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนต่อไป

       ด้าน นายอาน้อม กล่าวว่า ไม่ได้รู้จักกับ นางกมนทรรศน์ เป็นการส่วนตัว โดย นางกมนทรรศน์ ได้เข้ามาสมัครเป็นนักแสดงในสารคดีดังกล่าว แล้วภายหลังก็มีการสร้างความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการต่าง ๆ จึงหลงเชื่อนางกมนทรรศน์

ที่มา manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000087073